SO บวกแรง 6% กางแผนปีนี้ทุ่มงบลงทุนพันล้าน ลุ้นรายได้โต 10% เน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม
SO บวกแรง 6% กางแผนปีนี้ทุ่มงบลงทุนพันล้าน ลุ้นรายได้โต 10% เน้นรักษาฐานลูกค้าเดิม-หาฐานลูกค้าใหม่ โดย ณ เวลา 15:03 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 19.10 บาท บวก 1.10 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(14 มี.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท สยามราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ SO ณ เวลา 15:03 น. อยู่ที่ระดับ 19.10 บาท บวก 1.10 บาท หรือ 6.11% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 52.17 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้(2มี.ค.65) นายณัฐพล วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SO เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทจะมีการเติบโตจากนวัตกรรม (Innovation) รวมถึงความร่วมมือและการลงทุน (Partnership & Investment) โดยรายได้และกำไรจะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการนำ Innovation เข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจหลัก ทั้ง SO PEOPLE, SO GREEN, SO NEXT และ SO WHEEL ภายใต้ความรู้ และความเชี่ยวชาญมามากกว่า 40 ปี
โดยเบื้องต้นบริษัทคาดหวังจะสร้างรายได้ให้เติบโต 10% อ้างอิงฐานลูกค้าในปัจจุบัน จากปี 2564 ที่มีรายได้รวม 2,086 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 170 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรในทุกภาคส่วน ซึ่งทำให้กำไรต่อสัญญาปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน เน้น Outsourcing Showcase ที่ร่วมกับพันธมิตร เช่น รถดัดแปลงเพื่อการขนส่ง เป็นต้น โดยบริษัทจะมีการพัฒนาในหลายส่วน เพื่อให้ Outsource สนับสนุนฐานลูกค้าคุณภาพกว่าหลัก 100,000 ราย ให้ได้มากที่สุด และฐานลูกค้าใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องสะท้อนจากปี 2564 ที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 แต่ลูกค้าใหม่รายใหญ่ยังคงเพิ่มขึ้นถึง 19% หรือ 100 ราย
ทั้งนี้ บริษัทมีฐานะทางการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำเพียง 0.62 เท่า และมีอัตราการต่อสัญญาของฐานลูกค้าเดิมสูงถึง 90% อีกทั้งยังมีงบลงทุนรองรับมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต และช่วยต่อยอดธุรกิจหลักในปัจจุบันได้ด้วย ทั้ง software house professional training และ outsourcing provider
ขณะที่ ความคืบหน้าการลงทุนในกลุ่มบริษัท ADI Thailand ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการบริการจัดหาบุคลากรกว่า 500 ราย บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Staff Outsourcing) และให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Consulting Services) ในไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น ปัจจุบันยังคงอยู่ในขั้นตอนการศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ทั้งภาษีกฎหมายและในส่วนอื่น ๆ คาดว่าจะชัดเจนภายในเดือน มี.ค. 2565 หรือภายในไตรมาส 2/2565
นายณัฐพล กล่าวเสริมว่า ในปี 2565 บริษัทจะมีรายได้จากบิทคับ (bitkub) มากขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้ 500,000-1,000,000 บาทต่อไตรมาส ส่วนการร่วมมือต่าง ๆ ต้องติดตามกับทางบิทคับ ซึ่งล่าสุดเดือน ก.พ. 2565 ก็ได้มีการเซ็นสัญญาความเข้าใจ (MOU) เพิ่มเติม เพื่อปรับระบบต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ในปี 2565 ในด้านเทคโนโลยีจะเห็นการร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่ ๆ มากขึ้น รวมไปถึงสิ่งใหม่ ๆ ที่ร่วมพัฒนากับพันธมิตรและการพัฒนาขึ้นโดย SO เองด้วย อีกทั้งยังดำเนินการพัฒนาบุคลากร Crypto Outsource รองรับสถาบันการเงินในโลกของ Crypto และ Blockchain มากขึ้น เป็นต้น