MATCH คาดเปิดให้บริการสตูดิโอ “เมืองถ่ายหนัง” ได้ใน Q4/59

นายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MATCH เปิดเผยว่า การพัฒนาโครงการเมืองถ่ายหนังครบวงจรภายใต้ชื่อโครงการบ้านใหม่ (New Home) มูลค่า 1,187 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/59 ส่วนการที่รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอให้สนับสนุนเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ โดยการลดภาษีให้รวมสูงสุด 20% ให้เท่ากับประเทศอื่นๆในภูมิภาคนั้น เชื่อว่าจะดึงดูให้ต่างชาติกลับเข้ามาถ่ายภาพยนตร์ในไทยมากขึ้น

ทั้งนี้ การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ผู้ถือหุ้นของ MATCH อนุมัติให้ บริษัท แม็ทชิ่ง บรอดคาสท์ จำกัด เข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์อันได้แก่การเข้าซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเมืองถ่ายหนังครบวงจรภายใต้ชื่อโครงการบ้านใหม่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงผังที่ตั้งโครงการใหม่และปรับเปลี่ยนประเภทวัสดุก่อสร้างเพื่อเพิ่มคุณภาพโครงการ New Home ให้ได้ระดับมาตรฐานสากลตามแผนการลงทุนใหม่ รวมมูลค่าโครงการเป็นเงินทั้งสิ้น 1,187 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติไว้จำนวน 418 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  54.33% แบ่งเป็นมูลค่าการก่อสร้างรวม 714 ล้านบาท และราคาที่ดินที่ใช้ในการพัฒนาโครงการรวมค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องรวมมูลค่า 473 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของที่ดินได้ชำระเงินและรับโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้วตั้งแต่เดือนต.ค.57

สำหรับโครงการ New Home ที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงผังที่ตั้งโครงการใหม่และปรับเปลี่ยนประเภทวัสดุก่อสร้างนั้น จะเป็นการเพิ่มคุณภาพโครงการให้ได้ระดับมาตรฐานสากลเพื่อรองรับค่ายหนังต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนใช้ประเทศไทยเป็นสถานที่ถ่ายทำที่จะมีมากขึ้น เพราะประเทศไทยมีความพร้อมในทุกๆด้าน ประกอบด้วยสถานที่ที่สวยงาม อุปกรณ์ที่ทันสมัยครบครัน บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และเมื่อหากโครงการ New Home เปิดให้ใช้งานก็จะยิ่งเสริมความครบถ้วนให้กับอุตสาหกรรมการถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

“นอกจากนี้ การที่รัฐบาลโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เสนอให้สนับสนุนเม็ดเงินจากต่างชาติให้เข้ามาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ โดยการลดภาษีให้รวมสูงสุด 20% ให้เท่ากับประเทศอื่นๆในภูมิภาค เช่น สิงคโปร์และมาเลเซีย ที่ให้ส่วนลดกับกองถ่ายต่างชาติอยู่ในขณะนี้ ก็จะทำให้ประเทศไทยไม่มีข้อเสียเปรียบประเทศอื่นๆอีกต่อไป และจะยิ่งดึงดูดให้ค่ายหนังต่างชาติที่เคยเข้ามาถ่ายทำให้ประเทศไทยกลับมา”นายภูมิชาย กล่าว