THANA แรลลี่ยาว! พุ่งอีก 15% นิวไฮกว่า 4 ปี จับตา Q1 รายได้โต 3 เท่า ทั้งปีทะลุ 1 พันลบ.

THANA แรลลี่ยาว! พุ่งอีก 15% นิวไฮรอบกว่า 4 ปี  จับตา Q1 รายได้โต 3 เท่าตัว ลุ้นทั้งปีทะลุ 1 พันลบ. ลุยเปิด 3 โครงการใหม่มูลค่า 2.3 พันลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(23 มี.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)  หรือ THANA  ณ เวลา 10:56 น. อยู่ที่ระดับ 3.14 บาท บวก 0.42 บาท หรือ 15.44% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 566.30 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 4 ปี 8 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 3.14  บาท เมื่อวันที่ 20 ก.ค.มี.ค.2560

ด้านนายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  THANA เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 65 ที่ 1,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ราว 350 ล้านบาท ที่จะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1/65 ราว 50% ในขณะเดียวกันบริษัทมีโครงการพร้อมขายอยู่ในมืออีก 292 ยูนิต มูลค่า 1,426 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทคาดภาพผลประกอบการจะเด่นชัดในไตรมาส 1/65 โดยคาดว่ารายได้จะมีการเติบโตมากกว่า 2-3 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็นผลมาจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่มีจำนวนมากหลังมีการผ่อนคลายมาตรการ LTV ที่เกิดขึ้นช่วงปลายปี 64 และบริษัทได้เร่งการระบายสต็อกในมือ

นอกจากนี้แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะยังคงมีตัวเลขที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการติดเชื้อไม่ได้มีอาการรุนแรงเหมือนครั้งก่อนๆ ส่งผลให้ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ช่วยหนุนให้กำลังซื้อของประชาชนเริ่มกลับมาฟื้นตัวด้วย ในขณะเดียวกันยังคงติดตามสถานการณ์และควบคุมต้นทุนการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด และมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับต้นทุนของบริษัท

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 65 ที่ 1,200 ล้านบาท โดยได้เตรียมเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าราว 2,300 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการ THANA Habitat ราชพฤกษ์ ในช่วงปลายไตรมาส 2/65 มูลค่าโครงการราว 1,070 ล้านบาท โครงการ THANA RESIDENCE ในช่วงไตรมาส 3/65 มูลค่าโครงการราว 800 ล้านบาท และโครงการ THANA Village มูลค่าโครงการราว 500 ล้านบาท

โดยบริษัทได้เน้นการพัฒนาสินค้าให้โดดเด่น สร้างความแตกต่างผสานทุกชีวิตทุกช่วงวัยอย่างลงตัว นำเสนอแนวคิดใหม่ๆเชื่มทุกจุดของผู้อยู่อาศัย ร่วมพัฒนาชีวิตที่ดีกับสังคมและสิ่งแวดล้อม

ด้านผลงานประกอบการปี 2564 พลิกมีกำไร 23 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 16.63 ล้านบาทโดยผลการดำเนินงานพลิกมีกำไร เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายในปี 2564 อยู่ที่ร้อยละ 5.7 ของรายได้จากการขายฯ ลดลงร้อยละ 0.9 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารในปี 2564 รวม 80.1 ล้านบาท ลดลงจากงวด เดียวกันของปีก่อน 1.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 1.4 อีกทั้งบริษัทบันทึกส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมค้าในปี 2564 ประมาณ 23.0 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนเป็นส่วนแบ่งกำไรจำนวน 1.3 ล้านบาท

Back to top button