SELIC พุ่งต่อ 8% ลุ้นรายได้ปีนี้โต 20% ทยอยปรับราคาสินค้า-รับมือปัญหาขนส่ง

SELIC แรงต่อ 8% ลุ้นรายได้ปีนี้โต 20% ลุยปรับราคาสินค้าตั้งแต่กลางปีก่อน -รับมือปัญหาขนส่งทางเรือได้ดี แถมมีแรงหนุนขายสินค้าให้ SPI ที่เข้ามาถือหุ้นเพิ่ม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) หรือ SELIC ณ เวลา 11:25 น. อยู่ที่ระดับ 2.88 บาท บวก 0.22 บาท หรือ 8.27% สูงสุดที่ระดับ 2.96 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.62 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.24 ล้านบาท

นางสาวยุวดี สนธิทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SELIC เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 15-20% จากปี 2564 ที่มีรายได้ 1,466 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปี 2563 ที่ 16% พร้อมตั้งเป้ารักษาการทำอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ไว้ที่ 24.2% เท่ากับปี 2564 แม้เป้าหมายดังกล่าวจะตั้งไว้ก่อนเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน แต่ปัจจุบันบริษัทยังคงเป้าดังกล่าวไว้ และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินงานได้ตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทได้ทอยปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพงตั้งแต่ช่วงกลางปี 2564 และยังทยอยปรับขึ้นจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งสามารถบริหารจัดการปัญหาการส่งออกได้เป็นอย่างดี แม้จะมีเรื่องการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และตารางเดินเรือที่มีการเลื่อนบ่อยครั้ง โดยทีมงานที่ดูแลด้านการส่งออกได้วางแผนการจัดส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับแผนการดำเนินงานปี 2565 บริษัทยังคงมุ่งเน้นขยายการเติบโตของรายได้/สร้างผลกำไร และบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพื่อรักษา GP รวมทั้งยังดำเนินการเรื่องการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตรตามแผนที่วางไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับหลายรายและหากมีความชัดเจนบริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนรับทราบต่อไป

นอกจากนี้ การที่บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI ได้เข้ามาถือหุ้นใน SELIC เพิ่มเป็น 10.0437% นั้น ยังช่วยหนุนรายได้ของ SELIC ให้เติบโตด้วย โดยทั้ง 2 ฝ่ายจะมีความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันทาง SELIC ได้จำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทในเครือ SPI แล้ว 2-3 ราย และยังมีการเจรจาเพื่อจำหน่ายสินค้าเพิ่มเติมอีก โดยจะเริ่มมีรายได้จากเครือ SPI เข้ามายัง SELIC ตั้งแต่ปีนี้

นางสาวยุวดี กล่าวต่อว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 300 ล้านบาท เท่ากับปี 2564 เพราะยังมีหลายโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อลงทุน อีกทั้งยังมีการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง เพื่อบริหารจัดการต้นทุนดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

Back to top button