GULF วิ่ง 3% โบรกชี้ผลงาน Q1 โตตามปริมาณใช้ไฟ-ส่วนแบ่งกำไร “อินทัช” หนุน ชูเป้าสูง 60 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (30 มี.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ณ เวลา 15:04 น. อยู่ที่ระดับ 51.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 3.00% โดยทำจุดสูงสุดที่ 52.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 50.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.22 พันล้านบาท.

นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟ เอส เอส อินเตอร์เนอร์เนชั่นแนล จำกัด (FSSIA) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ของ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า GULF เป็นหุ้นเด่นของทางฝ่ายวิจัยในกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยการเติบโตของกำไรสุทธิจะเร่งตัวขึ้นในปี 2565-2566 จากโครงการใหม่ๆ

ทั้งนี้ กำไรไตรมาส 1/2565 ของ GULF น่าจะปรับตัวลงเล็กน้อยเป็นผลจากราคาก๊าซธรรมชาติปรับตัวสูงขึ้น แต่จะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก INTUCH เข้ามาหนุน

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 ก็จะมีกำลังการผลิตใหม่เข้ามา ทำให้ปี 2565 คาดว่ากำไรสุทธิจากการดำเนินงานของ GULF จะเพิ่มเป็น 14,799 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 13,752 ล้านบาท โดยเฉพาะจากกำไร BKR2 และ GSRC, กำไรสูงขึ้นจาก SPP และ IPP ตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น หลังการกลับมาเปิดเศรษฐกิจ และส่วนแบ่งทำไรจาก INTUCH ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 60 บาท

ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปัจจัยบวกจะทยอยเข้ามายัง GULF ตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 ที่ COD โรง GSRC unit 3 กำลังการผลิต 464 MW ตามด้วยไตรมาส 2/2565 ที่ COD โรงไฟฟ้าพลังงานลมในเวียดนาม กำลังการผลิต 122 MW และยังมีโครงการโรงไฟฟ้าใน สปป.ลาว (ปากแบง 912 MW, ปากลาย 770 MW) ที่อยู่ในกระบวนการเดินหน้าพัฒนา รวมถึงการร่วมทุนธุรกิจ Data Center และการศึกษาร่วมทุนกับ Binance ทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลคาดจะได้ความชัดเจนเร็วๆ นี้

ส่วนไตรมาส 3/2565 คาดมีความคืบหน้าโครงการ LNG to power ในเวียดนาม และไตรมาส 4/2565 จะ COD โครงการ GSRC unit 4 กำลังการผลิต 464 MW รวมถึงความคืบหน้าโครงการสานาคาม โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำใน สปป.ลาว กำลังการผลิต 684 MW

อย่างไรก็ดีคงมุมมองกำไรปกติไตรมาส 1/2565 เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะรายได้โตตามการรับรู้รายได้ GSRC unit 1-2 เต็มไตรมาส และมี unit 3 มาหนุน รวมถึงกำไรจาก INTUCH เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการลงทุน อีกทั้งยังเติบโตจากไตรมาสก่อนหน้าด้วย เพราะรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า GSRC unit 2 เต็มไตรมาส, โรงไฟฟ้า BKR2 ยังเป็น high season และส่วนแบ่งกำไรฯ โตหลังโรงไฟฟ้าในประเทศออกจาก low season และ SG&A ลดลง (seasonal)

ทั้งนี้คงคำแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 53 บาท โดยผู้ที่รับความเสี่ยงได้สามารถซื้อเก็งกำไร จาก upside โครงการระหว่างศึกษาเจรจาของ GULF ได้ โดยมองราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรองรับต่อเนื่อง และระยะยาวธุรกิจไฟฟ้าเติบโตสูงจากการทยอย COD กำลังการผลิตใหม่ใน 5 ปีข้างหน้า (64-68) ต่อเนื่อง ส่งให้ Eauity MW เพิ่มกว่า 2 เท่าตัว และกำไรเติบโตก้าวกระโดด 59% CAGR ในช่วงปี 2564-2566 เด่นกว่ากลุ่มที่คาดเติบโต 5-24% CAGR