TEAMG วิ่ง 5 วันติด 121% เก็ง Q1 โตแกร่ง! ไม่หวั่นติด “แคชบาลานซ์” ค่าพีอี 35.05 เท่า

TEAMG วิ่ง 5 วันติด 112% เก็ง Q1 โตแกร่ง! ไม่หวั่นติด “แคชบาลานซ์” ค่าพีอี 35.05 เท่า โดยล่าสุด ณ เวลา 10:55 น. อยู่ที่ระดับ 6.95 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 20.87% โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 7.15 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TEAMG ณ เวลา 10:55 น. อยู่ที่ระดับ 6.95 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 20.87% โดยทำจุดสูงสุดที่ระดับ 7.15 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 6.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 811.78 ล้านบาท สำหรับราคาหุ้นบนกระดานมีการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนทำออลไทม์ไฮ

สำหรับราคาหุ้น TEAMG ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง 5 วันทำการขึ้นไปแล้ว 121.34% พร้อมทำออลไทม์ไฮต่อเนื่องเช่นกัน โดยพบว่ามูลค่าการซื้อขายอย่างแน่อย่างต่อเนื่องใน 5 วันทำการอย่างวันที่ 28 มี.ค. 2565 ราคาหุ้นปิด 3.36 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 7.01% มูลค่าการซื้อขาย 219.68 ล้านบาท ต่อมาในวันที่ 29 มี.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ 4.36 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 29.76% เป็นการชนซิลลิ่ง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,851.12 ล้านบาท

ถัดมาในวันที่ 30 มี.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดอยู่ที่ 4.46 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 2.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2,563.75 ล้านบาท และในวันที่ 31 มี.ค. 2565 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 5.75 บาท บวกไป 1.29 บาท หรือขึ้นไป 28.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,890.45 ล้านบาท

ทั้งนี้การปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นหายฝ่ายมั่นใจว่าน่าจะมาจากการเก็งกำไรเข้ามาในผลประกอบการปี 2565 คาดว่าฟื้นตัวดีขึ้น โดยได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจใหม่ คือ การวางแผนการใช้พลังงานให้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ

อย่างไรก็ดีแม้ว่าราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวขึ้นไปค่อนข้างมากอาจมีความกังวลจะเข้าข่ายมาตรการหุ้นร้อน (Cash Balance) แต่เบื้องต้นวัดเกณฑ์ค่า P/E ที่ห้ามเกิน 40 เท่า โดยทาง TEAMG ถือว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์เพราะวานนี้ค่า P/E อยู่ที่ระดับ 35.05 เท่า จึงสามารถเห็นการไล่ราคาของหุ้น

อนึ่งก่อนหน้านี้(15มี.ค.65)ดร.อภิชาติ สระมูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานโครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานในมือรวมกว่า 371 โครงการ และเป็นโครงการที่คาดจะได้เซ็นสัญญามากถึง 115 โครงการ แบ่งเป็น 1.โครงการที่รอเซ็นสัญญา ได้แก่ งานอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมประชากร งานออกแบบของการไฟฟ้านครหลวง และงานปรับปรุงฝั่งซ้ายแม่น้ำแม่กลองของกรมชลประทาน เป็นต้น และ

2.โครงการที่มีโอกาสได้งาน ได้แก่ งานอุโมงค์ระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร งานรถไฟรางคู่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) งานขยายสนามบินของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT รวมถึงสนามบินระดับภูมิภาค งานต่าง ๆ ในพื้นที่พัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (EEC) งานการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รถไฟฟ้าสีส้มตะวันตก และสายสีม่วงใต้ งานการประปานครหลวง งานไฮโดรเพาเวอร์ สปป.ลาว และงานภาครัฐอื่น ๆ

ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2564 บริษัทมีงานคงค้าง (Backlog) รอส่งมอบรับรู้รายได้รวม 3,750 ล้านบาท แบ่งเป็น งานภาครัฐ 66% ภาคเอกชน 22% ต่างประเทศ 10% และธุรกิจเกี่ยวเนื่องอีก 2% นอกจากนี้ยังงานในมือรอรับรู้รายได้จากธุรกิจอื่น ๆ ได้แก่ Water Recycling รวม 3.81 ล้านบาท โซลาร์รูฟท็อป รวม 44.64 ล้านบาท โครงการระบบผลิตความเย็นจากส่วนกลาง (District Cooling) 590.80 ล้านบาท และน้ำประปา เพื่อใช้ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ รวม 237.51 ล้านบาท

นอกจากนี้ ในปี 2565 บริษัทคาดว่างานต่างประเทศกลับมามีสัดส่วนเกิน 10% เทียบกับปี 2564 ที่ไม่ถึง 10% เชื่อว่าจะมีโครงการต่าง ๆ กลับมาต่อเนื่อง รวมไปถึงควบคุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการทำงานลดลง หลังโควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิ ปรับตัวดีขึ้นด้วย ส่วนสถานะทางการเงินยังแข็งแกร่ง และมีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) 1.14 เท่า

ด้านน.ส.นวลแพร ภัทรมัย ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผน และสื่อสารองค์การและนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าวว่า ในปี 2565 ยังคงเป้าหมายมีรายได้เติบโต 10% เทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้ 1,758 ล้านบาท สอดคล้องกับการทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ บวกกับเศรษฐกิจ และอุตสาหกรรมฟื้นตัว ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้งานโครงการภาครัฐ และเอกชนทยอยออกมาต่อเนื่อง สะท้อนจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 ที่มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าไตรมาส 1/2564

Back to top button