“เคจีไอ” จัดพอร์ตลงทุนเม.ย. คัด 7 หุ้นเด่น Domestic play ลุ้นกำไร Q1 โตแกร่ง
“บล.เคจีไอ” จัดพอร์ตลงทุนเม.ย. คัด 7 หุ้นเด่น Domestic play ลุ้นกำไร Q1 โตแกร่ง BBL-KBANK-CPALL-MAKRO-AOT-ESSO-SPRC นำทีมเด่น
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(1 เม.ย.2565) ว่า พอร์ตหุ้นเดือนมีนาคมลดลง 0.8% under perform ตลาดโดยรวมเล็กน้อย ตลาดหุ้นไทยในเดือนมีนาคมเคลื่อนไหวผันผวน แต่ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยในระหว่างเดือนมีนาคมภาวะตลาดได้รับผลกระทบด้านลบจากการที่รัสเซียตัดสินใจเริ่มดำเนิน ปฏิบัติการทางทหารกับยูเครน ส่งผลให้สหรัฐ และพันธมิตรหลายประเทศคว่ำบาตรรัสเซีย
ดังนั้น ปัญหาอุปทานสะดุดของน้ำมันดิบ และสินค้าโภคภัณฑ์หลักอื่น ๆ จึงรุนแรงมากขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิด ความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะกำลังจะเข้าสู่ภาวะ stagflation ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมีนาคม ตลาดคาดหวังว่าจะมีการทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกันได้ ประกอบกับความเห็นของ กนง. ว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะยังฟื้นตัวได้ดีจากวิกฤติยูเครน ทำให้มีกระแสเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้ามาในตลาด หุ้นไทยเพิ่มขึ้น
ในขณะเดียวกัน พอร์ตหุ้นเดือนมีนาคมของเราลดลง 0.8% ซึ่งแย่กว่าดัชนี SET ที่ขยับเพิ่มขึ้น 0.9% โดย HMPRO* และ AOT* เป็นหุ้นเด่นเพียงสองตัวที่ outperform ดัชนี SET โดยเพิ่มขึ้น 4.0% และ 2.7% ตามลำดับ ในขณะที่ราคาหุ้น CPALL และ MAKRO น่าผิดหวังเพราะราคาน้ำมันที่พุ่ง สูงขึ้นทำให้นักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในประเทศ และ ผลกระทบต่อกำลังซื้อ ทั้งนี้ ในๆไตรมาส 1/2565 พอร์ตหุ้นของให้ผลตอบแทนสะสมที่ 2.4% ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของตลาดโดยรวมที่ 2.5%
สำหรับมุมมองตลาดเดือนเมษายน: มีหวังว่าข้อตกลงหยุดยิง และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ดีจะช่วยหนุนตลาด แต่ ยังต้องติดตามความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจถดถอยอย่างใกล้ชิด โดยในเดือนเมษายนคาดว่าดัชนี SET จะยังอยู่ในโหมด Sideways up จากสองประเด็นหลัก
โดยประเด็นแรก ผู้เล่นในตลาดอาจจะยังมองบวกกับการเจรจาระหว่างรัสเซีย และยูเครน ซึ่งจะนำไปสู่การ ทำข้อตกลงหยุดยิง และส่งผลให้ war premium ของราคาน้ำมันดิบและสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง และประเด็นที่สอง ยังคงมีสัญญาณบางตัวที่แสดงว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะยังฟื้นตัวได้ดีแม้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลก ชะลอตัวลง และเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น
ทั้งนี้มองว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในด้าน downside สำหรับตลาดโลกใน เดือนนนี้คือความกลัวว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถึงแม้เราจะเชื่อว่าเศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง และไม่ถึงกับเกิดภาวะถดถอย แต่การที่ yield curve ของสหรัฐเกิดสภาวะ inversion ในขณะที่ IMF ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงอย่างมีนัยสำคัญอาจจะส่งผลกระทบกับ สินทรัพย์เสียงโดยรวม
โดยธีมหุ้นเดือนเมษายนยังคงเน้นหุ้น domestic play เนื่องจากเรามองว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ดี และผลกระทบจากกรณีพิพาทรัสเซีย – ยูเครนยังอยู่ในระดับ ที่บริหารจัดการได้ จึงชอบ 1.) หุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจไทย อย่างเช่นกลุ่มธนาคาร 2.) หุ้นที่ใช้ ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อในกลุ่ม commerce และ 3.) หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ซึ่งจะได้ อานิสงส์จากการที่ประเทศไทยผ่อนคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ยังชอบ หุ้นกลุ่มโรงกลั่น ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะออกมาแข็งแกร่งมากในไตรมาส 1/2565 และในปี 2565 เนื่องจาก GRM แข็งแกร่ง ทั้งนี้หุ้นเด่นของในเดือนเมษายน ได้แก่ BBL, KBANK,CPALL, MAKRO, AOT, ESSO และ SPRC