จับตาบ่ายนี้ 3 หุ้นโรงแรมวิ่งคึก! รับท่องเที่ยวฟื้น หลังศบค.ยกเลิก “RT-PCR” ก่อนเข้าไทย

จับตาบ่ายนี้ MINT-CENTEL-ERW วิ่งคึก! รับท่องเที่ยวฟื้น หลังศบค.ยกเลิก "RT-PCR" ก่อนเข้าไทย 72 ชม. มีผลวันนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1เม.ย.2565)เป็นวันแรกที่ชาวต่างชาติ สามารถเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องทำการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมง จากประเทศต้นทาง  แต่ยังต้องตรวจ RT-PCR ในวันแรกที่เดินทางเข้ามาถึงประเทศไทย และตรวจ ATK แบบตรวจด้วยตัวเอง (Home Use) อีกครั้งในวันที่ 5 ของการเข้าประเทศ โดยแนวทางดังกล่าวเป็นไปตามมติของที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ ศบค. เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยถึงนโยบายการเปิดประเทศรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติว่า หลังจากนี้ภาพรวมของการทยอยปลดล็อกมาตรการการเดินทางเข้าประเทศไทย จะออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ หากในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับ 50,000-60,000 หมื่นคนต่อวัน และมีจำนวนผู้เสียชีวิตไม่เกิน 100 คนต่อวัน  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะนำเสนอให้ยกเลิกการตรวจ RT-PCR ครั้งแรกเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยเปลี่ยนเป็นการตรวจด้วย ATK แบบตรวจโดยบุคลากรทางการแพทย์ (professional use) ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

นอกจากนี้ ยังมีแผนผลักดันเพื่อปลดล็อกเงื่อนไขการเข้าประเทศทั้งหมด ให้เหมือนกับก่อนปี 2563 ที่เกิดสถานการณ์โควิด 19 ด้วยการนำเสนอ ศบค. เพื่อยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass รวมถึงการเข้าประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ทั้ง Test & Go และ Sandbox ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป

ส่วนมาตรการอื่น ๆ อาทิ จะยังคงมาตรการตรวจด้วย ATK แบบ professional use เมื่อเดินทางมาถึงจะยังมีอยู่หรือไม่นั้น ต้องรอหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมองว่าเพื่อความสบายใจของคนไทยในประเทศ ควรคงมาตรการการตรวจด้วย ATK แบบ professional use ในวันแรกที่มาถึงไว้ต่อไป

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนนี้ ยังต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Press โดยสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยใน 3 รูปแบบ  Test&Go , Sandbox และกักตัว (Alternative State Quarantine : AQ) โดยรูปแบบ Test & Go และ Sandbox จะมีการตรวจ RT-PCR ในวันที่มาถึง และตรวจ ATK ในวันที่ 5 นอกจากนี้ ยังลดวันกักตัว Sandbox, AQ จาก 7 วันเหลือ 5 วัน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด  ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(1เม.ย.65) ว่า จากกรณีศบค. ประกาศจะยกเลิกการตรวจโควิด-19 แบบ RT-PCR ล่วงหน้า 72 ชั่วโมง ก่อนเข้าประเทศไทยของนักเดินทางทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Test & Go , แซนด์บ็อกซ์หรือ แบบกักตัว มีผลวันที่ 1 เม.ย. นี้ โดยผู้ที่เข้าประเทศไทยมาในระบบ Test & Go ยังคงต้องตรวจ RT-PCR เมื่อมาถึงประเทศไทยวันแรก รวมถึงติดตามการคัดกรองตนเองด้วยการตรวจ ATK ในวันที่ 5

ขณะที่ผู้เดินทางเข้ามาแบบกักตัว ต้องตรวจ RT-PCR เมื่อถึงไทย และติดตามอีกครั้งด้วยการตรวจ RT-PCR ในวันที่ 4 หรือ 5 ก่อนออกจากสถานที่กักตัวนอกจากนี้ ส่วนผู้ที่เดินทางเข้ามาแบบ แซนด์บ็อกซ์ และ กักตัว มีการลดจำนวนวันที่ต้องอยู่ในพื้นที่จาก 7 วัน เหลือ 5 วัน

รวมถึงได้มีการปรับพื้นที่เสี่ยงภายในประเทศ โดยปรับลดพื้นที่สีส้มจาก 44 จังหวัดเหลือ 20 จังหวัด ในขณะที่พื้นที่สีเหลือง เพิ่มขึ้นจาก 25 จังหวัด เป็น 47 จังหวัดสำหรับพื้นที่สีฟ้า 8 จังหวัด ปรับเพิ่มเป็น 10 จังหวัด และจังหวัดอื่นดำเนินการนำร่องบางพื้นที่อีก 16 จังหวัด

ทั้งนี้คาดว่าบริษัทจะได้รับSentiment เชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว โดยกลุ่มหุ้นโรงแรมที่ได้ประโยชน์มากสุด นำโดย ERW ที่มีโครงสร้างรายได้จากโรงแรมไทย (อิงปี 2562) ราว 90% ตามด้วย บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราว 34% (มัลดีฟส์ 7% และร้านอาหาร 59%)

ส่วน บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT แม้รายได้มาจาก NH Hotel ราว 50% ของรายได้รวมปี 2562 (ร้านอาหารคิดเป็นสัดส่วน 18% ของรายได้ปี 2562) แต่ข่าวข้างต้นคาดช่วยผลักดันการฟื้นตัวของ MINT ฟื้นตัวเร็วขึ้นเพิ่มเติมจากการฟื้นตัวของ NH Hotel ที่มีพัฒนาการเชิงบวกตั้งแต่ครึ่งหลังปี 2564

อีกทั้งคงให้น้ำหนัก เท่าตลาด สำหรับกลุ่มฯ เลือก CENTEL ราคาเป้าหมาย 44 บาท จากงบดุลแกร่งและพอร์ตโรงแรมกระจายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงธุรกิจร้านอาหาร ตามด้วย MINT ราคาเป้าหมาย 36 บาท เพราะการฟื้นตัวในยุโรป( EU) คาดหมายว่ากลับมามีกำไรเร็วสุดในกลุ่มฯ  และ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW ราคาเป้าหมาย 3.70 บาท

นอกจากนี้หุ้นดังกล่าวราคายัง Laggard โดยฉพาะ CENTEL และ MINT ด้านธุรกิจร้านอาหารอย่างบริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M ราคาเป้าหมาย 63 บาท รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจตามทิศทางนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต่อเนื่องถึงสาขาในจังหวัดท่องเที่ยว และหากจีนเริ่มกลับมา บวกต่อร้านอาหารแหลมเจริญฯ (สัดส่วน 5% ของรายได้ M ปี 2562)

Back to top button