THG วิ่งต่อ 4% โบรกคาดรายได้ปี 65 โตแกร่ง รักษาโควิดหนุน-ทำ M&A
THG วิ่ง 4% โบรกคาดรายได้ปี 65 โตแกร่ง รับแรงหนุนรายได้รักษาโควิด ขยายโรงพยาบาลและการทำ M&A
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (1 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ณ เวลา 14:55 น. อยู่ที่ระดับ 86.25 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 3.60% โดยทำจุดสูงสุดที่ 86.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 84.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 406.87 ล้านบาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ โดยมีมุมมองเป็น “บวก” ต่อข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์ฯ เนื่องจาก 1) เป้าหมายปี 2565 รายได้ธุรกิจปกติเดิมไม่รวม COVID เติบโต 15% ดีกว่าประมาณการรายได้ที่คาดเติบโต 10%
รวมทั้ง 2) มีรายได้จากธุรกิจใหม่ที่ไม่รวมในประมาณการ และ 3) มีโอกาสเห็นการทำ M&A ในธุรกิจ รพ.สำหรับสถานการณ์ COVID ปัจจุบันผู้บริหารมองว่าการที่รัฐบาลผ่อนคลาย มาตรการต่างๆ และยังไม่มีมาตรการควบคุมออกมา ทำให้ยอดผู้ป่วยใหม่มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงจนถึงต้นไตรมาส 2/2565 ซึ่ง THG มีการเพิ่มเตียง Hospitel เป็น 4,849 เตียง จาก 4,632 เตียงในไตรมาส 4/2564
ทั้งนี้ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกการให้บริการเกี่ยวกับ COVID จะมีผลต่อผลการดำเนินงานของ THG ในเบื้องต้นประเมิน upside ต่อกำไรสุทธิปี 2565 ภายใต้สมมติฐานปรับเพิ่มรายได้ธุรกิจหลักตามเป้าหมายบริษัท และรายได้เกี่ยวกับ COVID จะทำให้ประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น 43% จาก 8,015 ล้านบาท เป็น 11,500 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 1,150 ล้านบาท หรือเป็น upside ราว 260% จากกำไรสุทธิ 320 ล้านบาท (ไม่รวมรายได้ COVID)
โดยฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิให้สอดคล้องกับเป้าหมายบริษัท และอาจมี potential upside จาก การทำ M&A ในธุรกิจ รพ.
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาซื้อขายบน PE ปี 2565-2566 ที่ 130-140 เท่า มองว่าตอบรับความคาดหวังผลการดำเนินงานธุรกิจหลักมีแนวโน้มเติบโตดีและมีโอกาสเติบโตแบบ Inorganic เข้ามาชดเชยรายได้เกี่ยวกับ COVID
ด้านบล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า THG ประกาศโครงการโรงพยาบาลธนบุรีรังสิต เปิดให้บริการในปี 2568 รายงานว่าคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการลงทุนในการร่วมทุน โครงการโรงพยาบาลธนบุรีรังสิต ซึ่ง THG จะถือหุ้น 30% ใน JV 40% โดย RAM, 10% ,VIBHA 20%
ทั้งนี้ กลุ่มแพทย์โรงพยาบาลจะตั้งอยู่ในโครงการ Jin Wellbeing Country และจะมีห้อง IPD 250 ห้อง, OPD 80 ห้อง ICU 25 เตียง ห้องผ่าตัด 5 ห้อง รวมถึงห้อง MRI และ CT Scan มีทุนจดทะเบียน 2.7 พันล้านบาท โดย THG จะลงทุน 810 ล้านบาท
โดยบริษัทคาดว่าโครงการจะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 2/2568 ซึ่งรอการอนุมัติในการประชุมผู้ถือหุ้นของ THG วันที่ 28 เม.ย. 2565 จากเงินลงทุน 810 ล้านบาท และในส่วนของ 584 ล้านบาท มาจากที่ดิน THG ที่จะโอนเข้าโครงการ รวมถึงเงินอีก 226 ล้านบาท มาจากเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งมีเงินสดมากกว่า 1,400 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2565 และสัดส่วนการลงทุนร่วมทุนคิดเป็น 3.4% ของสินทรัพย์รวม ผลประโยชน์ระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Jin Wellbeing
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ได้แก่ 1) การขยายธุรกิจโรงพยาบาลโดยรวม 2) โอกาสใหม่กับพันธมิตรทางธุรกิจ 3) ผลตอบแทนจากการลงทุน 4) ชื่อเสียงของแบรนด์โรงพยาบาลธนบุรี และ 5) เพิ่มมูลค่าให้ Jin Wellbeing Country ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อโครงการนี้สำหรับการขยายการดำเนินงาน รวมถึงการเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับ Jin Wellbeing ซึ่งมียอดขายน้อยกว่าที่คาดไว้ตั้งแต่เปิดตัว อย่างไรก็ตาม มีโรงพยาบาลธนบุรีบูรณะ ที่ติดกับโครงการ Jin Wellbeing ทำให้การดำเนินงานบางส่วนอาจซ้ำซ้อน โรงพยาบาลธนบุรีรังสิตคาดตั้งอยู่บนที่ดินระหว่างถนนสายหลักกับโรงพยาบาลธนบุรีบูรณะ
ทั้งนี้ โรงพยาบาลภัทร-ธนบุรียังอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตร ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของโดยตรง แต่ก็เป็นหนึ่งใน 18 โรงพยาบาล ภายใต้เครือข่าย THG โดยรวมแล้วการขยายตัวเป็นไปในเชิงบวกในมุมมองของทางฝ่ายวิจัย แต่มีความเสี่ยงของการแย่งผู้ป่วยภายในพื้นที่กันเอง หากโรงพยาบาลให้บริการผู้ป่วยกลุ่มเดียวกัน ทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ “ถือ”