“XE” โควิดพันธุ์ใหม่โผล่อีก! WHO เตือนแพร่เชื้อเร็วกว่า BA.2 ล่าสุดพบในไทยแล้ว 1 ราย

WHO เตือนโควิดโอมิครอนลูกผสม "XE" แพร่เชื้อได้มากกว่า BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยโอมิครอนเช่นกันราว 10% ล่าสุดพบในไทยแล้ว 1 ราย


องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า XE ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่ล่าสุดของโอมิครอนนั้นดูเหมือนว่า จะสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่า BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนเช่นกันอยู่ราว 10%

โดย WHO ระบุในรายงานด้านระบาดวิทยารายสัปดาห์ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ว่า โอมิครอนสายพันธุ์ XE เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์โอมิครอน BA.1 และ BA.2 โดย XE จะยังคงถือเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนจนกว่าจะมีรายงานที่แสดงถึงความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในด้านการแพร่เชื้อและลักษณะของโรคซึ่งรวมถึงความรุนแรง

รายงานระบุว่า “จากการประมาณการในช่วงแรกบ่งชี้ว่า XE มีอัตราการแพร่เชื้อในชุมชนได้มากกว่าสายพันธุ์ BA.2 อยู่ราว 10% อย่างไรก็ตาม การค้นพบนี้จำเป็นต้องได้รับการยืนยันเพิ่มเติม”

WHO ระบุว่า สายพันธุ์ย่อย BA.2 เป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดทั่วโลกในขณะนี้ โดยคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 86% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด

สำหรับไวรัสสายพันธุ์ XE นั้นได้รับการตรวจพบครั้งแรกในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 19 ม.ค. และมีผู้ติดเชื้อ XE ที่ได้รับการยืนยันแล้วมากกว่า 600 รายนับตั้งแต่นั้น

ด้านซูซาน ฮอปกิ้นส์ หัวหน้าที่ปรึกษาทางการแพทย์ของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (HSA) กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะสรุปเกี่ยวกับความสามารถในการแพร่เชื้อ ความรุนแรง หรือประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันสายพันธุ์ XE

โดย WHO เปิดเผยว่า จะยังคงติดตามอย่างใกล้ชิดและประเมินความเสี่ยงด้านสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับไวรัสลูกผสมต่าง ๆ อาทิ สายพันธุ์ XE และจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเมื่อมีหลักฐานมากขึ้น

นอกเหนือจากสายพันธุ์ XE แล้ว WHO ยังจับตาโควิดสายพันธุ์ XD ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างเดลตาและโอมิครอน ซึ่งพบส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส, เดนมาร์ก และเบลเยียม

ทั้งนี้ WHO ยังไม่มีหลักฐานว่า โควิดสายพันธุ์ XD มีความสามารถในการแพร่เชื้อมากขึ้นหรือทำให้เกิดอาการรุนแรงเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามล่าสุดวันนี้(2 เม.ย.65) ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ภาพและข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กเพจ ‘Center for Medical Genomics’ ความว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2565 ออกคำเตือนเกี่ยวกับโอมิครอนสายพันธุ์ลูกผสม “XE” ที่แพร่เชื้อติดต่อได้ง่าย และรวดเร็วกว่าไวรัสโคโรนา 2019 ทุกสายพันธุ์ที่เราเคยประสบมา

“XE” เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย “BA.1 X BA.2″ ไม่ใช่”เดลตาครอน” ซึ่งเป็นสายพันธู์ลูกผสมระหว่าง “เดลตา X โอมิครอน” WHO ยังไม่ตั้งชื่อให้อย่างเป็นทางการจนกว่า “XE” จะแสดงอาการทางคลินิกที่รุนแรงแตกต่างไปจากสายพันธุ์อื่นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน” หรือ “XD” WHO แจ้งว่าไม่พบการระบาดที่รวดเร็ว (transmissibility) และอาการที่รุนแรง (severity) แต่ประการใด

ล่าสุด ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ รพ. รามาธิบดี ตรวจพบสายพันธุ์ลูกผสม “XE” จากการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมจากตัวอย่างสวอปจากผู้ติดเชื้อ ชาวไทย 1 ราย และจากการตรวจกรองด้วยเทคโนโลยี “Massarray Genotyping” พบสายพันธุ์ลูกผสม “เดลตาครอน (เดลตา X โอมิครอน)” อีก 1 ราย ซึ่งต้องยืนยันด้วยการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนมอีกครั้งหนึ่ง

Back to top button