CPF ย้ำจ้างแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมาย เป็นธรรม ตามหลักสิทธิมนุษยชน
CPF ตอกย้ำนโยบายจ้างแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายตามมาตรฐานสากล มีความเป็นธรรมและมีการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทย โดยเฉพาะการจ้างแรงงานกัมพูชากว่า 3,400 คน เพื่อทำงานในโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ที่สระบุรีและนครราชสีมา ตามบันทึกข้อตกลงการนำเข้าแรงงานระหว่างประเทศไทยกับประเทศภาคี
นายสุชาติ สิทธิชัย รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ในฐานะผู้บริหารโรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา เปิดเผยว่า บริษัทตระหนักดีถึงความสำคัญของแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะแรงงานจากประเทศกัมพูชาและประเทศเมียนมา ในการช่วยสนับสนุนการผลิตและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ดังนั้นบริษัทจึงกำหนดเป็นโยบายการจ้างแรงงานต่างด้าวด้วยความเท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ได้มาตรฐานสากล ตามหลักสิทธิมนุษยชน และต่อต้านการใช้แรงงานเด็ก แรงงานบังคับและการค้ามนุษย์
ปัจจุบัน โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา มีการจ้างแรงงานกัมพูชาจำนวน 2,300 คน ซึ่งทุกคนเป็นการจ้างตรงโดยบริษัทฯ โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทย ในการคัดเลือกบริษัทตัวแทนด้านแรงงานที่ได้ใบรับรองจากรัฐบาลในกัมพูชาและตรวจสอบมาตรฐานโดยกระทรวงแรงงานไทย เพื่อรวบรวมแรงงานสมัครใจส่งมอบให้กับ ซีพีเอฟ
โดยล่าสุด ซีพีเอฟ ได้ให้การต้อนรับ ฯพณฯ อีท โซเฟีย เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ในโอกาสที่เดินทางไปเยี่ยมชมการทำงานของแรงงานชาวกัมพูชาที่โรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา เพื่อรับฟังแนวนโยบายของบริษัทในเรื่องแรงงานต่างด้าว และให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ สวัสดิการและมาตรฐานการปฏิบัติต่อแรงงานชาวกัมพูชาอย่างเท่าเทียมกันกับแรงงานไทย เป็นธรรมและไม่มีการเลือกปฏิบัติ
นายสุชาติ กล่าวว่า แรงงานชาวกัมพูชาที่ได้รับการเลือกจะได้รับการปฏิบัติอย่างดีตั้งแต่ตัวแทนด้านแรงงานกัมพูชาส่งมอบแรงงานให้กับบริษัทที่ชายแดน ด่านคลองลึก ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว ทั้งอาหารและพาหนะ รวมถึงการนำไปทำใบอนุญาตทำงาน ตรวจร่างกาย ฯลฯ ซีพีเอฟ เป็น ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าทั้งหมด ตามนโยบายจ้างตรงของบริษัท หลังจากนั้น แรงงานชาวกัมพูชาจะได้รับความรู้และการฝึกฝนทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นเวลา 5 วัน ก่อนเข้าทำงานจริงในสายการผลิต รวมถึงการจัดหอพักและรถรับ-ส่งฟรี ระหว่างที่พักกับโรงงานให้เพื่ออำนวยความสะดวก
นอกจากนี้ แรงงานชาวกัมพูชายังได้สิทธิต่างๆ ตามกฎหมายแรงงานไทยเท่าเทียมกับแรงงานไทย เช่น ค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท ค่าล่วงเวลา 1.5 เท่าในวันทำงานปกติ และ 2 เท่าในวันหยุด (วันหยุดนักขัตฤกษ์ 16วัน/ปี) ลาป่วย 30 วัน ลากิจ 7 วัน และลาพักผ่อนไม่น้อยกว่า 6 วันต่อปี มีประกันสังคม และค่ารักษาพยาบาล
อีกทั้ง ซีพีเอฟ ยังได้คำนึงถึงความเป็นอยู่ของแรงงานชาวกัมพูชาในเรื่องของภาษาด้วย โดยจัดตั้งศูนย์ประสานงานกัมพูชา-ไทย ซึ่งมีล่ามภาษากัมพูชาประจำศูนย์ เพื่อช่วยการสื่อสารทั้งในโรงงานและกรณีฉุกเฉิน นายสุชาติ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญในการปฏิบัติต่อแรงงานต่างด้าวตามหลักสิทธิมนุษยชนเท่าเทียมกับแรงงานไทย ซึ่งล่าสุดบริษัทได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2553) ระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด ตอกย้ำแนวทางการดูแลแรงงานของซีพีเอฟมุ่งสร้างความเท่าเทียม เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ และได้มาตรฐานสากล เพื่อยกระดับมาตรฐานแรงงานทุกคนในสถานประกอบการ