ATP30 ดีดแรง 15% ลุ้นปีนี้รายได้โต 25% แตะ 600 ลบ. ดันผลงาน “ออลไทม์ไฮ”

ATP30 เด้ง 15% ลุ้นปีนี้รายได้โต 25% แตะ 600 ลบ. การบริหารจัดการต้นทุนดี อีกทั้งเริ่มรับรู้ลูกค้าใหม่นิคมภาคกลาง คาดหนุนผลงาน “ออลไทม์ไฮ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (5 เม.ย. 2565) ราคาหุ้นบริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ณ เวลา 10:30 น. อยู่ที่ระดับ 2.46 บาท เพิ่มขึ้น 0.32 บาท หรือ 14.95% โดยทำจุดสูงสุดที่ 2.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 2.22 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 253.15 ล้านบาท

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ ATP30 เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจไตรมาส 1/2565 มีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จากการให้บริการรถรับส่งพนักงาน จำนวน 637 คัน ซึ่งถือว่าสูงสุดตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการ

นอกจากนี้ยังมีลูกค้าใหม่ที่เริ่มให้บริการในนิคมอุตสาหกรรมภาคกลาง เป็นรถบัสจำนวน 6 คัน รถตู้ 5 คัน สัญญา 5 ปี เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา และยังมีการเสนอบริการกับลูกค้ารายใหม่ ที่สนใจใช้บริการของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากการเติบโตที่รวดเร็วของจำนวนรถให้บริการ บริษัทฯ ได้พัฒนาเทคโนโลยี Robotic Process Automation (RPA) หุ่นยนต์ที่จะช่วยควบคุมการเดินรถ ทั้งเรื่องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการ การบริหารต้นทุนให้กับลูกค้า (จัดการเส้นทางการเดินรถ) ระบบปฏิบัติการติดตามการเดินรถ ตรวจเช็คและซ่อมบำรุง และการควบคุมต้นทุนของบริษัท เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจและเพิ่มความสามารถการทำกำไร

ส่วนสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ ไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากภาครัฐมีนโยบายพยุงราคาน้ำมันดีเซล อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีการบริหารความเสี่ยงเรื่องราคาน้ำมันอยู่แล้ว เพราะถือเป็นต้นทุนหลักของการดำเนินงาน อีกทั้งสัญญากับลูกค้าส่วนใหญ่เป็นค่าบริการแปรผันกับราคาน้ำมัน บริษัทฯ จึงสามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้

“การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของจำนวนรถที่ให้บริการ ผนวกกับการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ทำให้เชื่อมั่นว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะสามารถทำ All Time High โดยมีรายได้โต 25% แตะ 600 ล้านบาท รักษาอัตรากำไรขั้นต้น 25% และอัตรากำไรสุทธิ 10%” นายปิยะ กล่าว

สำหรับกระแสการปรับเปลี่ยนจากการใช้รถน้ำมัน ไปเป็นการใช้รถจากพลังงานไฟฟ้า (EV) ปัจจุบันบริษัทฯ มีการติดตามสถานการณ์ของรถบัส และ รถแวน อย่างใกล้ชิดและได้มีการเตรียมความพร้อมทั้งการศึกษาการใช้รถ EV รวมไปถึงการการดัดแปลงรถจากรถน้ำมันเชื้อเพลิงมาเป็นรถ EV ทั้งการปรับปรุงตัวรถ และการลงทุนรถใหม่ เมื่อราคาและมูลค่าการลงทุนเหมาะสม บริษัทฯ ก็มีความพร้อมที่จะลงทุนได้ทันที แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบันบริษัทฯ ยอมรับว่าการลงทุนในรถ EV ยังไม่มีความเหมาะสม

Back to top button