YGG ปิดบวก 4% โบรกชี้กำไรปีนี้โต 80% ธุรกิจเกม-โครงการเมตาเวิร์สหนุน อัพเป้า 14 บ.
YGG ปิดบวก 4% โบรกชี้กำไรปีนี้โต 80% แตะ 200 ลบ. รับธุรกิจเกม-โครงการเมตาเวิร์สหนุน แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (5 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 11.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.51% โดยทำจุดสูงสุดที่ 12 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 11.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 179.33 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.2565) ว่า YGG มีแผนที่จะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากการรับจ้างผลิตไปเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มตัวเอง ผ่านการสร้างใบอนุญาตทรัพย์สินทางปัญญา (IP) โดยในปี 2564 บริษัทขยายกำลังการผลิตด้านดิจิทัลผ่านบริการการผลิตเสมือนจริง ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับสตูดิโอรายใหญ่ของประเทศจีนและการร่วมผลิตผลงานกับแพลตฟอร์ม OTT ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยประมาณการเชิงอนุรักษ์นิยมว่ารายได้ธุรกิจ VFX และอะนิเมชั่น ของบริษัทจะเติบโต 15%
สำหรับธุรกิจเกมในปี 2564 กำไรหลักของ YGG พุ่งขึ้นถึง 98% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ด้วยการเปิดตัวเกมเพียงแค่เกมเดียว คือ Home Sweet Home: Survive (HSH) ในเดือน มี.ค. 2564 ส่วนในปี 2565 บริษัทจะเปิดตัวเกมทั้งหมดถึง 5 เกม ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยคาดจะเห็นการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2565
นอกจากนี้ผู้บริหารมีแผนที่จะเปิดตัวเวอร์ชั่น 2 สำหรับเกม Home Sweet Home: Survive (HSH) ในเดือน พ.ค. โดยรูปแบบการเล่นของเวอร์ชั่นใหม่จะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้แต่จะยังคงใช้ IP ตัวเดิมอยู่ ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดเวอร์ชั่นใหม่นี้จะสามารถดึงดูดผู้เล่นรายใหม่และรุกตลาดต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น โดยในไตรมาส 2/2565 YGG มีแผนที่จะเปิดตัวเกมที่พัฒนาโดยบริษัทเอง (เกมบน PC) ซึ่งใช้ IP ใหม่ นอกจากนี้ในไตรมาส 2/2565 บริษัทจะเปิดตัว ZooRacers – เกมรถต่อสู้แบบ Multichain (พัฒนาร่วมกับ ZooKeeper – decentralized blockchain project)
อีกทั้งในไตรมาส 3/2565 YGG มีแผนที่จะเปิดตัวเกม NFT ที่พัฒนาโดยบริษัทเอง เป็นเกมใหม่ และอีกโครงการใหญ่ (เมตาเวิร์ส) จะตามมาติดๆในไตรมาส 3/2565 ซึ่งทุกเกม NFT ที่พัฒนาโดย YGG จะสามารถข้ามและแลกเปลี่ยนได้ ระหว่างแต่ละเชนและรวมเข้ากับโครงการเมตาเวิร์ส ดังนั้นระบบนิเวศจะขยายตัวอย่างมากในไตรมาส 4/2565 นอกจากนี้บริษัทร่วมทุนกับ MACO จะเปิดตัวเกมใหม่ใน SEA ซึ่งน่าจะเป็นเกมบนโทรศัพท์มือถือ (ซึ่งขนาดของตลาดใหญ่กว่าตลาดเกมบน PC ราว 5 เท่า) สำหรับปี 2565 ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้เชิงอนุรักษ์นิยมที่ 60 ล้านบาท จากตัวเวอร์ชั่น 2 สำหรับเกม HSH: Survive (รายได้จากเวอร์ชั่น 1 ไปพีคในไตรมาส 2/2564 ที่ 33 ล้านบาท) และ 15 ล้านบาทต่อเกมสำหรับ 4 เกมที่เหลือ (คิดเป็นเพียง 20% ของรายได้จากเกม HSH: Survive ในปี 2564)
โดยทางฝ่ายวิจัยเชื่อว่าจะะยังมีอัพไซด์อีก 30% ต่อประมาณการกำไรปี 2565 ของทางฝ่ายวิจัย อยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโต 80% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนโดยโครงการเมตาเวิร์สและธุรกิจเกม อยู่ที่ 55 ล้านบาทต่อเกม สำหรับเกมใหม่ 4 เกม หรือคิดเป็น 60% ของรายได้จากเกม HSH: Survive ในปี 2564) เนื่องจาก YGG มีโอกาสที่จะรายงานการเติบโตที่ก้าวกระโดดมาก บริษัทควรมีการซื้อขายบนระดับพรีเมียม โดยทางฝ่ายวิจัยปรับไปอิง PEG จาก 1.80 เท่าไปเป็น 2 เท่าแทน บนสมมติฐานกรณีที่ดีที่สุดของทางฝ่ายวิจัย ทั้งนี้กำหนดราคาเป้าหมายใหม่ไว้ที่ 14 บาท จากเป้าหมายเดิม 13 บาท