SCB ปรับโฉม “SCB Business Anywhere” ลุ้นปีนี้ยอดธุรกรรมโต 30% ทะลุ 25 ล้านรายการ

SCB มุ่งพัฒนา “SCB Business Anywhere” ตอบโจทย์คนยุคใหม่ อัพเกรดประสบการณ์ธนาคารดิจิทัลที่สมาร์ทเพื่อลูกค้าธุรกิจครบวงจร คาดจะมีปริมาณธุรกรรมบนแพลตฟอร์มมากกว่า 25 ล้านรายการ เติบโต 30% ในปี 2565 


นายธนวัฒน์ กิตติสุวรรณ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน GTS and Ecosystems ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโตอย่างก้าวกระโดดไม่เพียงเฉพาะในกลุ่มลูกค้าบุคคลเท่านั้น แต่รวมถึงกลุ่มลูกค้าธุรกิจทั้งธุรกิจรายใหญ่และเอสเอ็มอีที่กำลังเปลี่ยนผ่านธุรกรรมการเงินไปสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบมากยิ่งขึ้น

โดยพบว่าการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้าธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ในปี 2564 เติบโตถึง 59% คิดเป็นมูลค่ามากถึง 1.16 ล้านล้านบาท ประกอบกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนไปและการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ธนาคารจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพ SCB Business Anywhere แพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งสำหรับลูกค้าธุรกิจของธนาคารให้มีสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการตอบโจทย์ธุรกิจภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ได้มากกว่าที่ลูกค้าคาดหวัง และสร้างประสบการณ์ธนาคารดิจิทัลที่สมาร์ทยิ่งกว่าอย่างครบวงจร รองรับการทำธุรกรรมทางการเงินทั้งสำหรับธุรกิจในประเทศและการค้าขายระหว่างประเทศที่เติบโตมากขึ้น

สำหรับช่วงปีที่ผ่านมาธนาคารได้นำลูกค้าธุรกิจของธนาคารทั้งหมดจำนวนกว่า 1 แสนรายขึ้นบนแพลตฟอร์มเป็นกลุ่มแรก เพราะต้องการช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจจากโลกการค้าที่เชื่อมต่อกันเป็นหนึ่งเดียวได้ดียิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะและบริการใหม่ๆ โดยเฉพาะบริการชำระเงินระหว่างประเทศ (International Payment) ซึ่งเป็นบริการใหม่และเป็นจุดเด่นของการพัฒนา SCB Business Anywhere ในเฟสนี้

ทั้งนี้ SCB Business Anywhere โฉมใหม่ได้พัฒนาประสิทธิภาพของระบบด้วยคุณสมบัติและบริการ ดังนี้ 1.บริการธุรกรรมเงินโอนต่างประเทศสำหรับธุรกิจ (International Payment) ขยายศักยภาพจากธุรกรรมพื้นฐานสู่บริการโอนเงินไปต่างประเทศที่ครอบคลุมถึง 18 สกุลเงิน เชื่อมโอกาสทางธุรกิจในเวทีโลกได้อย่างกว้างไกล,2.ระบบแนะนำบริการโอนเงิน/ชำระเงิน (Product Recommendation) โดยแนะนำบริการที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดโดยอัตโนมัติ ,3.ระบบแสดงผลการทำธุรกรรมทุกรายการแบบเรียลไทม์ (Realtime Transaction) รวดเร็วและแม่นยำ ตลอด 24 ชั่วโมง

4.ระบบบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้งานด้วยตนเอง (Self Admin) ฟังก์ชั่นการจัดการบัญชีผู้ใช้งานที่มีความหลากหลายและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เช่น การเพิ่มผู้ใช้งาน การปรับขั้นตอนการอนุมัติรายการ และสมัครบริการเพิ่มเติม ผ่านระบบด้วยตัวเองเป็นต้น และ 5.บริการ SCB Digital Token ธนาคารไทยแห่งแรกที่นำระบบ Digital Token เข้ามาผสานร่วมกับแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้ง เพื่อใช้สำหรับออกรหัสลับสำหรับทำธุรกรรมออนไลน์ ด้วยการรักษาความปลอดภัยระดับสูง (military-grade) ที่น่าเชื่อถือซึ่งได้รับการยอมรับโดยธนาคารและรัฐบาล หลายแห่ง ตอบโจทย์การใช้งาน ไม่ต้องพกพาเครื่อง Token อีกต่อไป

นอกจากนี้ยังได้ปรับโฉม SCB Business Anywhere ให้มีหน้าตาทันสมัยออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งาน และขยายขีดความสามารถให้ลูกค้าทำธุรกรรมจำนวนมากในเวลาเดียวกันได้อย่างเสถียรแบบไร้รอยต่อ และคาดว่าจะมีปริมาณธุรกรรมบนแพลตฟอร์มมากกว่า 25 ล้านรายการ เติบโต 30% ในปี 2565  พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งที่ลูกค้าธุรกิจเลือกใช้เป็นธนาคารหลัก

พร้อมกันนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้จัดแคมเปญพิเศษเพื่อส่งเสริมการใช้งานแพลตฟอร์ม SCB Business Anywhere โดยมอบโปรโมชัน ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปี พร้อม ฟรี ค่าธรรมเนียมชำระบิลและโอนเงินภายในประเทศทุกรายการ สำหรับลูกค้าที่สมัครใช้บริการ SCB Business Anywhere รูปแบบใหม่ ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2565

Back to top button