“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 280.70 จุด กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบศก.
“ดาวโจนส์” ปิดร่วง 280.70 จุด กังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยกระทบศก. โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,641.18 จุดลบ 280.70 จุด หรือ 0.80%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (5 เม.ย.65) หลังจากนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเร่งปรับลดขนาดของงบดุลเพื่อสกัดเงินเฟ้อ โดยการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ฉุดหุ้นที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,641.18 จุด ลดลง 280.70 จุด หรือ -0.80%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,525.12 จุด ลดลง 57.52 จุด หรือ -1.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,204.17 จุด ลดลง 328.39 จุด หรือ -2.26%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากนางเบรนาร์ดได้แสดงความเห็นเมื่อคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเป็นระบบ และเร่งปรับลดขนาดงบดุลจากระดับสูงเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนหน้า พร้อมกับกล่าวว่า ขณะนี้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงเกินไป และการชะลอเงินเฟ้อถือเป็นภารกิจที่มีความสำคัญอย่างมาก
ด้านคริสตินา ฮูเปอร์ นักวิเคราะห์จากบริษัทอิสเวสโคกล่าวว่า การแสดงความเห็นของนางเบรนาร์ดทำให้ตลาดวิตกกังวลว่า เฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระดับที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงหรืออาจเข้าสู่ภาวะถดถอย และเมื่อถึงเวลานั้น เฟดอาจเผชิญกับความยากลำบากในการพยุงเศรษฐกิจ
ขณะนี้ตลาดการเงินคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมทั้งในเดือนพ.ค.และมิ.ย.ที่จะถึงนี้ และคาดว่าเฟดจะทำให้อัตราดอกเบี้ยแตะระดับ 2.50-2.75% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งสูงกว่า 2.4% ซึ่งเป็นระดับที่กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าเป็นระดับที่เป็นกลาง
ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 2.2% โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.89% หุ้นแอมะซอน ดิ่งลง 2.55% หุ้นไมโครซอฟท์ ลดลง 1.30% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 1.67% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ร่วงลง 2.9%
ด้านดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ร่วงลง 2.4% โดยหุ้นราล์ฟ ลอเรน ดิ่งลง 3.86% หุ้นไนกี้ ร่วงลง 1.52% หุ้นคาปรี โฮลดิ้งส์ ร่วงลง 2.74%
ขณะที่หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 2% ขานรับข่าวที่ว่า นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลา จะเข้าร่วมบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ หลังจากที่ได้ถือครองหุ้นบริษัทมากกว่า 9% โดยนายมัสก์จะเป็นกรรมการในบอร์ดบริหารของทวิตเตอร์ และจะสิ้นสุดวาระในปี 2567
ส่วนหุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.43% หลังบริษัทเปิดเผยยอดจองที่นั่งเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ด้านหุ้นสายการบินสปิริต แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 22.37% ขานรับรายงานที่ว่า สายการบินเจ็ตบลู แอร์เวย์ส ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการสปิริต แอร์ไลน์ส
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.3 ในเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 0.1% สู่ระดับ 8.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. โดยการนำเข้าพุ่งขึ้น 1.3% สู่ระดับ 3.178 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 2.286 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน