ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 165 จุด รับข้อมูลศก.สหรัฐฯสดใส
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตที่ขยายตัวแข็งแกร่งสุดในรอบ 6 เดือน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งนำโดยเอ็กซอน โมบิล และเชฟรอน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (2 พ.ย.) ที่ 17,828.76 จุด พุ่งขึ้น 165.22 จุด หรือ 0.94%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,127.15 จุด เพิ่มขึ้น 73.40 จุด หรือ 1.45% และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,104.05 จุด เพิ่มขึ้น 24.69 จุด หรือ 1.19%
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยมาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 54.1 ในเดือนต.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 54.0 ของตัวเลขเบื้องต้น โดยค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค.ขยายตัวได้ดีกว่าระดับ 53.1 ของเดือนก.ย. และยังแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 53.0 ในเดือนต.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีครึ่งในเดือนก.ย. โดยพุ่งขึ้น 0.6% สู่ระดับ 1.09 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2008 และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเชฟรอนปรับขึ้น 4.5% หุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 17% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานที่คำนวณในดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 2.4%, หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพปรับตัวขึ้น โดยหุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.7% หุ้น AbbVie ทะยานขึ้น 6.4% ส่วนหุ้น Dyax พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 28.4% หลังจากบริษัทไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอังกฤษประกาศเข้าซื้อกิจการ Dyax มูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์พุ่งขึ้น 32% หุ้นเฟซบุ๊กพุ่งขึ้น 24% หุ้นอเมซอนทะยานขึ้น 35% และหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 12.9%, หุ้นวีซาร่วงลง 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดในไตรมาส 3 ปีนี้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนต.ค.สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. ส่วนวันพรุ่งนี้ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนต.ค., และสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะเปิดเผยดัชนีภาคการบริการเดือนต.ค.
สำหรับวันพฤหัสบดี ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 3/2558 ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.ย.