EA ดีดกลับ 2% หลังปมข่าวลือ “เคลียร์กระจ่าง” ย้ำรถอีวีโตตามแผน

EA เด้ง 2% หลัง นายอมร ทรัพย์ทวีกุล เคลียร์กระจ่างปมข่าวลือ ย้ำพื้นฐานบริษัทยังเหมือนเดิม โดยเติบโตจากส่วนของโรงผลิตแบตเตอรี่ โรงงานประกอบรถยนต์ รวมถึงสถานีชาร์จรถไฟฟ้าไปตามแผน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ณ เวลา 12:28 น. อยู่ที่ระดับ 88.25 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1.73% โดยทำจุดสูงสุดที่ 89.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 86.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,819.37 ล้านบาท

โดยเบื้องต้นสถานการณ์ข่าวลือของ EA เริ่มกระจ่างมากขึ้น เมื่อนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ผ่านรายการ “ข่าวหุ้น” ออกอากาศทางช่อง MCOT HD30 ในวันที่ 11 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา ได้ตอบคำถามประเด็นที่นักลงทุนอย่างรู้ได้ประจักษ์แจ้ง ว่างก.ล.ต.ไม่มีการตั้งคำถาม ทั้งในประเด็นที่ นายสมโภชน์ อาหุนัย ขายหุ้นออกมา รวมถึงประเด็นการซื้อพื้นที่อุตสาหกรรม เนื่องจากรายการทั้งหมดเป็นการทำรายการแบบโปร่งใสและตรวจสอบได้ทั้งหมด

ต่อมาประเด็นเรื่องการซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงโครงการโซลาร์ฟาร์ม ซึ่งการทำรายการดังกล่าวมีการจ้าง IFA เพื่อประเมินมูลค่าและความเสี่ยง พร้อมทั้งทำเอกสารแจ้งผู้ถือหุ้นโดนระบุชัดเจนว่าเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ส่วนการที่นายสมโภชน์ใช้เงินส่วนตัวในการซื้อที่ดินนั้น เป็นการบริหารความเสี่ยงของบริษัท ซึ่งหากตอนนั้นใช้บริษัทมหาชนซื้อแล้วที่ดินไม่สามารถพัฒนาได้ตามแผนอาจจะส่งผลเสียกับบริษัท และกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย รวมถึงหากรอเวลาก็อาจจะเสียพื้นที่ดังกล่าวให้กับผู้ลงทุนรายอื่นเช่นกัน

นอกจากนี้ในประเด็นโซลาร์ฟาร์มลำปาง และนครสวรรค์ โดยบริษัทดูเรื่องมูลค่าการลงทุนและผลตอบแทนการลงทุน โดยยืนยันว่าการลงทุนในตอนนั้นไม่ได้แพงกว่าตลาด ซึ่งหากไปดูไส้ในจริงๆ จะพบว่าบริษัทได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 30%

อย่างไรก็ดีในส่วนของพื้นฐานบริษัทยังเหมือนเดิม ทั้งในส่วนของโรงผลิตแบตเตอรี่ โรงงานประกอบรถยนต์ รวมถึงสถานีชาร์จรถไฟฟ้า และน่าจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตจากปีก่อน โดยปีนี้จะเริ่มเห็นความเติบโตในธุรกิจอีวีหลังจากที่ดำเนินงานมากว่า 4 ปี โดยอยากบอกนักลงทุนทุกท่านว่า แผนงานของบริษัทยังเหมือนเดิม และมีการวางแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโต จึงอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าบริษัทยังคงเดินหน้าธุรกิจให้มีการเติบโตตามที่เคยให้คำมั่นกับนักลงทุน

สำหรับประเด็นที่มีกระแสว่าจะมีผู้ถือหุ้นขายออกมาอีก 10% อาจจะเป็นการขายหุ้นออกมาจากพาร์ทเนอร์ คนใกล้ชิด หรือการขายแบบรวบรวมกันแล้วขายออกมา ซึ่งมองว่าการซื้อขายหุ้นนั้นเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนซื้อขายอยู่ทุกวัน อย่างไรก็ดี อยากให้นักลงทุนใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว เนื่องจากในวงการตลาดหุ้นนั้นมีข่าวออกมาหลากหลายทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง

Back to top button