ดอลล์อ่อนค่าก่อนสหรัฐฯเผยข้อมูลจ้างงานศุกร์นี้
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น ก่อนสหรัฐเปิดเผยข้อมูลจ้างงานในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักลงทุนเชื่อว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้หรือไม่
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1021 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1005 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5412 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5435 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.75 เยน จาก 120.71 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9866 ฟรังก์ จาก 0.9881 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7137 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7134 ดอลลาร์
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวในช่วงแคบๆเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกัน เฟดยังคงจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานและเงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยกำหนดช่วงเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และในวันศุกร์นี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนต.ค.ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551 สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืนนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวในเดือนต.ค.เป็นเดือนที่ 34 ติดต่อกัน ขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมมีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 77 ติดต่อกัน
ผลการสำรวจของ ISM พบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 50.1 ในเดือนต.ค. โดยดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ภาคการผลิตในเดือนต.ค.อยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2556 และต่ำกว่าระดับ 50.2 ในเดือนก.ย.