FSMART บวก 3% ลุ้นกำไรปีนี้ 612 ลบ. โต 53% อานิสงส์ “ตู้เต่าบิน” ยอดขายพุ่ง
FSMART บวก 3% ลุ้นกำไรปีนี้ 612 ลบ. โต 53% อานิสงส์ดีมานด์ “ตู้เต่าบิน” เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่วนปี 66 คาดกำไร อยู่ที่ 991 ลบ. โต 62.10%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ณ เวลา 14:34 น. อยู่ที่ระดับ 17.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.87% โดยทำจุดสูงสุดที่ 18.20 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 17.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 529.50 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มี.ค.2565) เริ่มมีความมั่นใจในธุรกิจเต่าบินเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะฝั่นดีมานด์ที่สะท้อนผ่านตัวเลขต่างๆ อีกทั้งยังมีอัพไซด์จากการเพิ่มสัดส่วนถือครองในบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ให้มากกว่า 20% (ปัจจุบันถืออยู่ 19.3%) ส่งผลถึง Sentiment ที่ดีของนักลงทุน ประเมินมูลค่าด้วยวิธี SOTP ประกอบด้วย มูลค่าของธุรกิจตู้บุญเติมที่ 5.50 บาท และให้มูลค่าของธุรกิจตู้เต่าบินที่ 10.50 บาท เบ็ดเสร็จ ได้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 16 บาท ในกรณีฐาน โดยโอกาสเปิดสำหรับการปรับราคาเป้าหมายขึ้นจนถึง 26 บาทได้ในอนาคตขึ้นอยู่กับผลประกอบการและพรี่เมี่ยมที่ตลาดให้กับธุรกิจตู้เต่าบิน ปรับคำแนะนำจาก “ขาย” เป็น “ซื้อ”
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยเกาะติดสตอรี่ในธุรกิจตู้เต่าบินตั้งแต่วันแรกที่บริษัทประกาศแผนธุรกิจและพยายามวิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้บริโภคในตู้เต่าบินมาโดยตลอด ตัวเลขที่บ่งชี้ถึงดีมานด์ได้เป็นรูปธรรมมากที่สุด คือ จำนวนแก้วที่ขายได้เฉลี่ยต่อตู้ต่อวัน โดยที่ผ่านมาขณะที่จำนวนตู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จำนวนแก้วที่ขายได้ต่อตู้ก็เพิ่มขึ้น จาก 45 แก้วในไตรมาส 4/2564 เป็น 50 แก้วในต้นปี 2565 และเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 60 แก้วในปัจจุบันสะท้อนถึงดีมานด์ที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ในแง่ปัจจัยเชิงคุณภาพ ตู้บุญเติมก็ยังได้รับผลตอบรับที่ดีผ่านสื่อและงานจัดกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง เช่น งาน ASEAN RETAIL เป็นต้น ถ้ามองบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด เป็นบริษัทร่วม คาดกำไรปี 2565 อยู่ที่ 612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบจากปีก่อน ส่วนกำไรปี 2566 อยู่ที่ 991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62.10% เมื่อเทียบจากปีก่อน โดยมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจเต่าบินในปี 2565 ราว 26% ส่วนปี 2566 ราว 45%