ILINK วิ่ง 9% จับตากำไร Q1 ทะลุ 80 ลบ. ลุ้นคว้า 4 งานใหญ่ 3.6 พันลบ. ดันงบปีนี้โตเด่น
ILINK วิ่ง 9% จับตากำไร Q1 ทะลุ 80 ลบ. ลุ้นคว้า 4 งานใหญ่ 3.6 พันลบ. โบรกคาดรายได้ปีนี้โต 8% ขับเคลื่อนด้วย Distribution และ Telecom เคาะเป้า 12 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (20 เม.ย.2564) ราคาหุ้นบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ณ เวลา 10:57 น. อยู่ที่ระดับ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.85 บาท หรือ 8.90% โดยทำจุดสูงสุดที่ 10.80 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 9.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 193.88 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ( 11 เม.ย. 2565) ว่า คาดกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 80.3 ล้านบาท ลดลง 31.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 7.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามาจากรายได้ของธุรกิจงานโครงการวิศวกรรม (EPC) ที่คาดว่าจะลดลง 64.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เพราะงานส่วนใหญ่ถูกส่งมอบไปในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 และเหลืองานในมือ ณ สิ้นปี 2564 จำนวน 667 ล้านบาท คาดว่าจะส่งมอบงานได้ไม่มากในไตรมาส 1/2565 เนื่องจากเป็น Low season
ส่วนกำไรที่คาดเติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจหลักของบริษัทคือ Distribution มีความโดดเด่นและเป็นธุรกิจหลักขับเคลื่อนผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดงานมหกรรมลดราคาประจำปี “Interlink Expo 2022” ในช่วงปลาย เดือน ก.พ. ถึงต้นเดือน มี.ค. 2565
ทั้งนี้คาดว่าในปี 2565-2567 รายได้จากธุรกิจ Distribution จะโตกว่าในอดีต เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 14% ต่อปี (CAGR) โดยเฉพาะในปี 2565 ที่ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ Distribution เติบโต 12-20% และทางฝ่ายวิจัย คาดเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โครงข่ายพื้นฐานตามความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นเทรนด์เดียวกันทั่วโลกคือการ Work from Home/Online Learning ทำให้ผู้บริโภคต้องการใช้ High speed Internet และเป็นอินเตอร์เน็ตที่มีความเสถียร รวมถึงมีความต้องการใช้ Data center มากขึ้น สอดคล้องกับ Global Cabling Market ที่คาดโตเฉลี่ย 7.4% ต่อปี (ปี 2564-2573) ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดเพิ่มขึ้น 9.2% CAGR ในช่วงปี 2564-2566
โดย ณ สิ้นปี 2564 ธุรกิจ EPC มี Backlog ไม่สูงนักอยู่ที่ 667 ล้านบาท จะรับรู้ในปี 2565 ทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทได้เข้าร่วมประมูลงานขนาดใหญ่อีก 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3.6 พันล้านบาท หากบริษัทชนะการประมูลงานขนาดใหญ่อย่างงานก่อสร้างสายเคเบิ้ลใต้น้ำไปยังเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี มูลค่า 1.7 พันล้านบาท คาดว่าจะทำให้รายได้มี Upside ราว 5-6% ต่อปี โดยกำไรมี Upside ราว 13-15% ต่อปี และราคาเป้าหมายมี Upside ราว 1.20-1.40 บาทต่อหุ้น
ทั้งนี้ในปี 2565 มีแนวโน้มว่าจะเป็นปีที่ดีของทั้งกลุ่ม ILINK โดยคาดรายได้ปีนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขับเคลื่อนด้วย Distribution และ Telecom ก่อนจะเร่งตัวเพิ่มขึ้น 12.5% ในปี 2566 เมื่อ EPC มาเป็นตัวช่วย และคาดกำไรปกติปี 2565 เติบโต 14.1%, ส่วนปี 2566 เติบโต 14.5%, และปี 2567 เติบโต 10.1% คิดเป็นกำไรปกติเติบโตเฉลี่ย 13.5% ในช่วงปี 2565-2567 ประเมินราคาเป้าหมาย ILINK ที่ 12 บาท อิง SOTP โดยใช้ค่า PE 13 เท่า