ZIGA วิ่ง 3% เก็งงบ Q1 เด่น “เหมืองขุดบิทคอยน์-ออเดอร์เหล็ก” หนุน ดันรายได้ปี 65 โต 30%

ZIGA วิ่ง 3% ลุ้นงบ Q1 เด่น รับรายได้จากธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์ได้เต็มไตรมาส และธุรกิจเหล็กมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คาดดันรายได้ปี 65 โตระดับ 15-30% ตามเป้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (25 เม.ย. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ZIGA ณ เวลา 15:37 น. อยู่ที่ระดับ 12.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.36% โดยทำจุดสูงสุดที่ 12.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 11.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 970.46 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ZIGA เปิดเผยว่า จากนี้ไปบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาการต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นในธุรกิจ Digital Technology กับ Financial Technology หรือ FinTech หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเข้าไปลงทุนในธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ ผ่านบริษัท ซิก้า เอฟซี จำกัด (ZIGA FC) ปัจจุบันมีเครื่องขุด จำนวนรวม 400 เครื่อง รวมทั้งอยู่ระหว่างการพิจารณาจะเพิ่มจำนวนเครื่องขุดอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้บริษัทฯ จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีผ่านบริษัทย่อย ประกอบด้วย บริษัท เมอร์ลินตั้น อินโนเวชั่น จำกัด เพื่อการลงทุนและพัฒนาธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับ Digital Technology และ บริษัท วิสเดน กรุ๊ป จำกัด เพื่อนำร่องในการทรานสฟอร์มธุรกิจเข้าสู่โหมดเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว โดยเริ่มต้นด้วยตัวเหมืองขุดบิดคอยน์ เพื่อการลงทุน ธุรกิจที่ให้บริการทางการเงินที่นำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ (Financial Technology หรือ FinTech) เพื่อขยายภาพของธุรกิจ ZIGA ให้มีความเป็นเทคโนโลยีมากขึ้น เป็นการเพิ่มมูลค่าดิจิตอลแอสเซ็ท เพิ่มศักยภาพด้านบล็อกเชน

สำหรับภารกิจสำคัญของวิสเดน กรุ๊ป คือการออกแบบธุรกิจ มองหาโอกาสใหม่ๆ โดยในช่วงแรก หรือเป้าหมายระยะสั้น บริษัทฯ จะเน้นในเรื่องของการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตลาดสามารถจับต้องได้ เน้นในเรื่องของการวิจัยและพัฒนา (R&D) ทดลองและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวข้องรวมถึงพัฒนาและบริหารผลิตภัณฑ์ทางการเงิน พร้อมเปิดกว้างในการค้นหาพาร์ทเนอร์ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขยายงานด้านเทคโนโลยี เพื่อมุ่งสู่ตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ

“การพัฒนาต่อยอดธุรกิจเทคโนโลยีจากเหมืองขุดบิทคอยน์ สามารถดำเนินการได้หลากหลาย รูปแบบ และจะสนับสนุนให้บริษัทฯ มีฐานรายได้ใหม่เพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งธุรกิจเทคโนโลยียังถือเป็นบลูโอเชี่ยน และจะเป็น New S-Curve ใหม่ของบริษัทฯ ขณะเดียวกันธุรกิจเหล็ก ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิม ยังมีแนวโน้มที่ดี เนื่องมีออเดอร์ของโครงการขนาดใหญ่มากขึ้น ทำให้มั่นใจว่าทั้งสองธุรกิจจะช่วยผลักดันการเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต” นายศุภกิจ กล่าว

ด้านภาพรวมของธุรกิจในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ ยังคงรักษาการเติบโตได้ดี เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจขุดเหมืองบิทคอยน์ได้เต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ขณะที่ธุรกิจเหล็กมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการเน้นกลยุทธ์การตลาดในส่วนการจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือท่อประปาที่คาดว่าจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีมากขึ้น น่าจะช่วยผลักดันให้ผลงานในปี 2565 เติบโตในระดับ 15-30% ตามเป้าหมายที่วางไว้

Back to top button