TIPH ดีดแรง 11% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 83 บ. ลุ้นกำไรปีนี้โตแตะ 2.07 พันลบ.

TIPH ดีดแรง 11% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 83 บ. ลุ้นกำไรปีนี้โตแตะ 2.07 พันลบ. ปี 66 ทะลุ 2.23 พันลบ. โดย ณ เวลา 15:21 น. อยู่ที่ระดับ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 เม.ย.2565) ราคาหุ้นบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ณ เวลา 15:21 น. อยู่ที่ระดับ 56.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท หรือ 10.89% โดยทำจุดสูงสุดที่ 56.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 49.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 710.76 ล้านบาท

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.2565) ว่า มองว่ากำไรของ TIPH น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 4/2564 ที่ผ่านมาแม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในไตรมาส 1/2565 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/2564 แต่เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่ในไตรมาส 1/2565 เป็นผู้ป่วยสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งติดง่าย แต่มีความรุนแรงของโรคน้อยกว่า ซึ่งประกันสุขภาพที่ TIPH ขายนั้นจะคุ้มครองเฉพาะผู้ป่วยที่แพทย์เห็นว่าอาการรุนแรง และมีความจำเป็นที่ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเท่านั้น (TIPH ไม่มีประกันประเภท เจอ จ่าย จบ)

ทั้งนี้ยังคงประมาณการกำไรปี 65-66 ที่ 2,076 ล้านบาท (โต 10% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) และ 2,235 ล้านบาท (โต 8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยคาดว่ากำไรของ TIP น่าจะฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป จาก Loss Ratio ที่ค่อยๆปรับตัวดีขึ้นที่ 61.3/59.1%

เนื่องจาก ประกันภัยโควิดที่ทยอยหมดอายุ และสถานการณ์โควิดที่น่าจะมีความรุนแรงลดลงในอนาคต และเบี้ยประกันภัยรับที่คาดโตอยู่ที่ 2.5/4.0% โดยหลักๆโตมาจากส่วนของประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประเภทโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ TIPH ยังมี Upside เพิ่มเติมจากการ M&A โดยปัจจุบัน TIPH ยังไม่มีหนี้สินส่วนที่มีดอกเบี้ย (Interest Bearing Debt) เลย โดยบริษัทมีแผนที่จะ Leverage ขึ้นไปให้ IBD/E อยู่ที่ 0.5 เท่า ซึ่งจะทำให้ได้เงินสดมากว่า 5 พันล้านบาท โดยบริษัทตั้งใจที่จะซื้อบริษัทที่มี ROE ไม่ต่ำกว่า TIPH เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 83 บาท

Back to top button