FVC บวกแรง 8% นิวไฮรอบ 4 ปี ปักธงปี 65 รายได้โต 30% จ่อยื่นไฟลิ่งนำ KTMS เข้าตลท.ปีนี้
FVC บวกแรง 8% นิวไฮรอบ 4 ปี ปักธงปี 65 รายได้โต 30% ลุยเพิ่มเครื่องฟอกไตเทียม250-300 เครื่อง จ่อยื่นไฟลิ่งนำ KTMS เข้าตลท.ปีนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27 เม.ย.2565) ราคาหุ้นบริษัท ฟิลเตอร์ วิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FVC ณ เวลา 15.43 น. อยู่ที่ระดับ 2.36 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 8.26% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 185.27 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 4 ปี 4 เดือนโดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.43 บาท เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.27 ต.ค.60
โดยก่อนหน้า(10 เม.ย.2565)นายวิจิตร เตชะเกษม ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวมทุกกลุ่มบริษัทที่ 645.43 ล้านบาท โดยในปี 2565 FVC โดยบริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (KTMS) บริษัทย่อยของ FVC ซึ่งอยู่ในกลุ่มธุรกิจบริการทางการแพทย์ (B3) และมีสัดส่วนรายได้สูงสุดที่ 48% จาก 3 กลุ่มธุรกิจ มีแผนเพิ่มเครื่องไตเทียมเป็น 250-300 เครื่อง จากปัจจุบันอยู่ที่ 228 เครื่อง และมีอัตราการครองเครื่องไตเทียมที่ 85% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด
นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาให้บริการเครื่องฟอกไตเทียมอีก 3-7 สาขา จากปัจจุบันมีอยู่ 18 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 แห่ง ภาคตะวันตก 2 แห่ง ภาคเหนือ 4 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง และ ภาคตะวันออก 2 แห่ง ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ล่าสุดเพิ่งเปิดบริการสาขาที่ 19 ส่วนสาขาที่ 20-21 จะเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 3/2565
ส่วนแผนการนำ KTMS เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) นั้น ยังคงอยู่ในกระบวนการจัดเตรียมเอกสาร และจะมีการยื่นไฟลิ่งภายในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่ง FVC จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป ซึ่งเบื้องต้นผู้ถือหุ้น FVC มีสิทธิ์ที่จะได้หุ้น IPO ของ KTMS ด้วย
ทั้งนี้ในปี 2564 KTMS มีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 2% จึงมีอัตราการเติบโตอีกมาก และมีเป้าหมายว่าในปี 2568 จะมีเครื่องฟอกไตเทียมให้บริการ 400-500 เครื่อง และมีสาขาไม่ต่ำกว่า 50 สาขา และยังมีจุดแข็งจากการที่มีผู้บริหารมีประสบการณ์ด้านงานไตเทียมระดับผู้เชี่ยวชาญ มายาวกว่า 15 ปี และมีบริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ FVC ที่มีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมออกแบบตกแต่งหน่วยไตเทียมมามากกว่า 15 ปีเช่นกัน
สำหรับแผนธุรกิจ 3 ปี (2566-2568) ของ FVC นั้น ได้ตั้งเป้ารายได้แต่ละหน่วยธุรกิจดังนี้ 1. กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการด้านระบบน้ำ (B1) สัดส่วนรายได้ 16% ตั้งเป้ายอดขายที่ 150-200 ล้านบาทในปี 2567 จากปี 2564 อยู่ที่ 102.34 ล้านบาท
3.กลุ่มธุรกิจพาณิชย์และที่พักอาศัย (B2) สัดส่วนรายได้ 36% ตั้งเป้ายอดขาย 300-500 ล้านบาท ในปี 2567 จากปี 2564 อยู่ที่ 233.65 ล้านบาท ซึ่งในปี 2565 น่าจะทำยอดขายได้ที่ 300 ล้านบาท และ3. B3 ตั้งเป้าให้บริการเครื่องฟอกไตเทียม 400-500 เครื่อง ในปี 2568 จากปี 2564 อยู่ที่ 228 เครื่อง มีรายได้ 309.44 ล้านบาท