SMT บวก 6% สวนตลาด! เดินหน้า “เหมืองขุดบิตคอยน์” เฟสแรก 200 เครื่อง

SMT บวก 6% สวนตลาด! เดินหน้า “เหมืองขุดบิตคอยน์” เฟสแรก 200 เครื่อง โบรกเชียร์ซื้อเป้า 6.30 บ. จับตาทั้งปีกำไรทะลุ 275 ลบ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(6 พ.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT ณ เวลา 10:24 น. อยู่ที่ระดับ 5.40 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 5.88% ราคาสูงสุด 5.45 บาท ราคาต่ำสุด 5.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 60.55 ล้านบาท

โดยวานนี้(5 พ.ค.65) บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท SMT ครั้งที่ 2/2565 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนใน ธุรกิจเหมืองขุดบิตคอยน์ ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ มูลค่าการลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยจะจัดซื้อเครื่องขุดบิตคอยน์ในระยะแรกจำนวน 200 เครื่อง วงเงินประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดเตรียมสถานที่ ระบบไฟฟ้า ระบบอินเตอร์เน็ต และระบบอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ใหม่ให้แก่บริษัท โดยคาดว่าจะติดตั้งเครื่องจักร และระบบต่างๆ โดยทยอยแบ่งการลงทุนเป็นหลายระยะ

ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและระมัดระวัง โดยได้พิจารณาข้อได้เปรียบของบริษัทฯ ที่เป็นผู้ผลิตและมีความสามารถในการบำรุงรักษาเครื่องขุดบิตคอยน์ได้เอง บริษัทฯ ได้พิจารณาความเสี่ยงและมาตรการบริหารความเสี่ยงที่เกี่ยวกับความผันผวนของราคา อัตราแลกเปลี่ยน และต้นทุนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบปฏิบัติการสำหรับการขุดบิตคอยน์

อีกทั้งบริษัทฯ มีความพร้อมของระบบงานและบุคลากรโดยบริษัทฯ เป็นผู้ผลิตเครื่องขุดบิตคอยน์ จึงมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ทั้งนี้บริษัทฯ เล็งเห็นข้อดีของการลงทุนเพื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มรายได้ สำหรับการผลิตเครื่องขุดบิตคอยน์และเป็นการต่อยอดหน่วยธุรกิจสำหรับการขุดบิตคอยน์เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ได้พิจารณาผลกระทบการบันทึกบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่เกี่ยวข้องแล้ว

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (6 พ.ค.65) ว่า SMT มีมุมมอง Slightly positive ต่อผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 58 ลบ. (โต 12% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ โต 27% เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ดีกว่าคาด หากหักผลของอัตราแลกเปลี่ยนรายไตรมาส ธุรกิจปกติมีกำไร 52 ลบ. (โต16%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  และโต 12%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) เนื่องจาก 1) ยอยขายรวม (โต8% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โต 19%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) กลับมาเติบโตดีกว่าเราคาดจากสถานการณ์วัตถุดิบดีขึ้น โดยกลุ่ม PCBA มียอดขายเติบโตเด่น ส่วนกลุ่ม Optics ฟื้นตัวแรง เทียบไตรมาสก่อนหน้า

2) %Gross margin ดีกว่าคาดที่ 20.7% ดีขึ้น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้มี Economy of scale ของการผลิต และมีผลบวกจากการผลิตสินค้าที่มีสัดส่วนวัตถุดิบประเภท Consignment 3) ค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายมีสัดส่วน 11.9% ลดลงจาก 15.2% ในไตรมาส 4/2564

แนวโน้มไตรมาส 2/2565 คาดกำไรปกติเติบโต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เทียบไตรมาสก่อนหน้า ตามทิศทางยอดขาย และ %Gross margin ใกล้เคียงไตรมาส1/2565 ยังคงกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 275 ลบ. (โต 31% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) เติบโตตามยอดขายรวม (โต37% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ของสินค้า 3 กลุ่มหลัก รวมทั้งมีโอกาสขยายตลาดในยุโรปและเอเชียต่อยอดการเติบโต คงคำแนะนำซื้อสำหรับ SMT  ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท

Back to top button