TWPC วิ่ง 9% รับกำไร Q1 พุ่ง 30% รับยอดขายโตทุกผลิตภัณฑ์
TWPC บวกเกือบ 9% รับกำไร Q1/65 โตเด่น 30% แตะ 166 ลบ. รับยอดขายโตแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ มั่นใจปีนี้โตตามเป้า รุกเดินหน้าขนวัตกรรมเกษตร-อาหาร ขับเคลื่อนตลาดโลกอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ณ เวลา 10:21 น. อยู่ที่ระดับ 6.75 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 8.87% สูงสุดที่ระดับ 6.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19.60 ล้านบาท
นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWPC เปิดเผยว่า บริษัททำผลกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 2565 ได้เพิ่มขึ้นถึง 30% โดยมียอดขายรวมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 15% บริษัทมียอดขายเติบโตแข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากตลาดหลัก ได้แก่ ไทย เวียดนาม จีน และสหรัฐอเมริกา
สำหรับยอดขายรวมทั้งหมด 2,465 ล้านบาท แบ่งออกเป็นรายได้จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 1,321 ล้านบาท คิดเป็น 54% แป้งมันสำปะหลังดัดแปลงมูลค่าเพิ่ม 664 ล้านบาท (27%) และธุรกิจอาหาร 480 ล้านบาท (19%) สำหรับสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอาหาร มาจากตลาดในประเทศ 86% และตลาดต่างประเทศ 14%
ทั้งนี้ TWPC เป็นบริษัทเกษตรและอาหารชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการดำเนินงานใน 5 ประเทศ โดยมีโรงงานและสำนักงานทั้งหมด 15 แห่ง มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ครอบคลุมทั้งผลิตภัณท์อาหารสำหรับผู้บริโภค ได้แก่ ผลิตภัณท์แป้งและส่วนผสมในการประกอบอาหาร ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้น เส้นก๋วยเตี๋ยว และล่าสุดคือผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกจากแป้งมันสำปะหลังภายใต้แบรนด์ ROSECO
“การออกแบบและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดโลกที่มีความแข็งแกร่งและสมดุล คือกลยุทธ์หลักของบริษัทนับตั้งแต่โควิด-19 เริ่มระบาดเมื่อเดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา ในฐานะที่เราเป็นหนึ่งในบริษัทเกษตรและอาหารแบบครบวงจรจาก “ฟาร์มสู่ผู้บริโภค”ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่รายในภูมิภาค เราได้ทุ่มเทเวลาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สร้างความแข็งแกร่งให้กับห่วงโซ่คุณค่าทั้งระบบของบริษัท โดยได้ดัดแปลงซัพพลายเชนให้เข้ากับท้องถิ่น และพัฒนาความสามารถของทีมขายให้พร้อมสำหรับตลาดโลก” นาย โฮ เรน ฮวา กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป บริษัทได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ท้องตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ของไทยวา คือ วุ้นเส้นพร้อมรับประทาน สามารถหาซื้อได้แล้วทั่วประเทศ และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซองลอง (Song Long) ซึ่งเป็นแบรนด์แฟลกชิปของบริษัทในเวียดนาม ก็เป็นผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสำหรับผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค สำหรับผลิตภัณฑ์แป้งประกอบอาหารและส่วนผสมอาหารที่ขายให้กับกลุ่มธุรกิจนั้น บริษัทยังคงเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง แป้งดัดแปลง และแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิก ซึ่งคัดสรรวัตถุดิบมาจากหลายๆประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับไตรมาส 1 ปี 2565 บริษัทยังคงมีรายได้และผลกำไรเติบโต double digit และยังเป็นผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีที่สุดอีกด้วย ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการเร่งผลักดันให้บริษัทฯ ก้าวไปสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในกลุ่มผลิตภัณท์แป้งประกอบอาหาร และในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดออฟฟิศร่วมกับพันธมิตรที่เมืองซานฟรานซิสโก นิวยอร์ก และลอนดอน เพื่อประกอบธุรกิจทางด้านเทคโนโลยีอาหาร เทคโนโลยีการเกษตร และเทคโนโลยีชีวภาพอีกด้วย
“ธุรกิจเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจระดับโลก ความท้าทายเกี่ยวกับความมั่นคงด้านอาหารและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้เรามีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องบริการลูกค้าทั่วโลกให้ได้เร็วขึ้นและดีขึ้น ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายและการทำตลาดทั่วโลกของเราเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นมาก ปัจจุบันเราให้บริการลูกค้าในประเทศต่างๆ
รวมถึงบริษัทชั้นนำระดับโลก และบริษัทอาหารที่ติดอันดับ Fortune 500 และเรายังเป็นหนึ่งในบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากพืชล้วนๆ จากฟาร์มจนถึงมือผู้บริโภค ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ทั้งผลิตภัณฑ์อาหาร ส่วนผสมและแป้งประกอบอาหาร การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน และธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นวัสดุชีวภาพ”นาย โฮ เรน ฮวา กล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น แพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ของบริษัท คือ ไทยวา เวนเจอร์ ก็กำลังจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ 3 แห่งในประเทศสหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูง ทั้งในกลุ่มเกษตรและอาหาร เทคโนโลยีชีวภาพ และดิจิทัลซัพพลายเชน