IVL วิ่ง 5% โบรกอัพเป้าใหม่ 70 บ. หลังกำไร Q1 แตะ 1.41 หมื่นลบ. ดีกว่าคาด!

IVL วิ่ง 5% โบรกอัพเป้าใหม่ 70 บ.  หลังกำไร Q1/65 โต 134% แตะ 1.41 หมื่นลบ. ดีกว่าคาด! ชี้ไตรมาส 2 ยังดีจาก PET spread สูง พร้อมธุรกิจ IOD และรับรู้ Oxiteno เข้า ดันผลงานเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 พ.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL ณ เวลา 11:18 น. อยู่ที่ระดับ 46.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 5.08% โดยทำจุดสูงสุดที่ 46.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 45.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 863.97 ล้านบาท

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 14,069.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134.15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 6,008.81 ล้านบาท ธุรกิจ Combined PET หนุนอย่างแข็งแกร่ง และไตรมาสนี้มี Stock gain ราว 4.4 พันล้าน

ทว่าหากไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (เช่น FX, รายได้จากเครดิตภาษี, เงินชดเชยจากประกัน) บริษัทจะมีกำไรปกติที่ 13.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 141% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 147% จากไตรมาสก่อน และรายงาน EBITDA รวมที่ 650 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 76% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 41% จากไตรมาสก่อน หนุนด้วยกำไรที่สูงขึ้นของทุกธุรกิจซึ่งแบ่งออกได้เป็น

1) ธุรกิจ CPET มี EBITDA ที่ 435 ล้านดอลลาร์ ( เพิ่มขึ้น 67% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 64% จากไตรมาสก่อน หนุนด้วยการทำ contract reset สำหรับตลาดตะวันตกสำหรับ PET และ PTA 2) ธุรกิจ IOD รายงาน EBITDA ที่ 126 ล้านดอลลาร์ ( เพิ่มขึ้น 234% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน สูงขึ้นอย่างมากจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการกลับมาดำเนินงานของ IVOL และ 3) ธุรกิจเส้นใย (Fibers) มี EBITDA ที่ 85 ล้านดอลลาร์ (เพิ่มขึ้น 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน จากธุรกิจ Hygiene ที่ฟื้นตัว

นอกจากนี้ บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า โดยประเมินว่า core EBITDA โดยเฉพาะธุรกิจ CPET จะยังดีอยู่ในไตรมาส 2 ปี 2565 ในขณะเดียวกันบริษัทจะได้ประโยชน์จากการรับรู้ผลประกอบการของ Oxiteno ซึ่ง IVL ประกาศเข้าซื้อ Oxiteno เสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2565

โดยปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ขึ้น 70% เป็น 3.9 หมื่นล้านบาท และปี 2566 ขึ้น 26%  เป็น 3.4 หมื่นล้านบาท เทียบกับปี 2564 อยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท  หลักๆเพื่อสะท้อน core EBITDA ที่ดีขึ้นของแต่ละธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ CPET ซึ่งบริษัทได้ทำการ contract reset สำหรับลูกค้าในตลาดฝั่งตะวันตกสำหรับ PET และ PTA อีกทั้งน่าจะเห็นต้นทุนที่ลดลงจากการทำโครงการ Olympus อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ปี 2565 ที่ 70 บาท (เดิม 60 บาท) เชื่อว่าบริษัทจะได้ประโยชน์จากแนวโน้ม Industry Integrated PET spread ที่ทรงตัวในระดับสูงจากงวดเดียวกันของปีก่อนอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2565 เป็นต้นไป จะมากเกินพอที่จะช่วยชดเชยผลกระทบจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นในปี 2565

Back to top button