“กสิกรไทย” ชี้กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 34.20-35.00 บ. จับตา “จีดีพี” Q1-ทิศทาง ‘ฟันด์โฟลว์’

“กสิกรไทย” ชี้กรอบเงินบาทสัปดาห์หน้า 34.20-35.00 บ. จับตา “จีดีพี” ไตรมาส 1/65 สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ


ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)  หรือ KBANK มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์ถัดไป (16-20 พ.ค.65) ที่ระดับ 34.20-35.00 บาท/ดอลลาร์ จากวันศุกร์ (13 พ.ค.) เงินบาทปิดตลาดที่ 34.76 บาท/ดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/65 สถานการณ์ยูเครน-รัสเซีย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กและสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนพ.ค. ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรม การเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามจีดีพีไตรมาส 1/65 ของญี่ปุ่น ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนเม.ย. ของอังกฤษและยุโรป การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของธนาคารกลางจีน และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนเม.ย. อาทิ ผลผลิตอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก และอัตราว่างงาน

โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา (9-13 พ.ค.) เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีที่ 34.79 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงเช่นเดียวกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขยับแข็งค่าขึ้น (ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 19 ปี) หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อ (CPI) สหรัฐฯ ชะลอลงช้ากว่าที่คาด ซึ่งทำให้ตลาดยังคงประเมินโอกาสความเป็นไปได้ของการเร่งคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด นอกจากนี้เงินดอลลาร์ ยังมีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

อนึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า มีการติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด โดยมองว่า เงินบาทที่อ่อนค่ามีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอก แต่การเคลื่อนไหวยังเป็นปกติและยังคงสอดคล้องกับภูมิภาค

ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,886.2 ล้านบาท และมีสถานะเป็น NET OUTFLOW ออกจากตลาดพันธบัตร 1,758.4 ล้านบาท (โดยแม้จะมีการเข้าซื้อสุทธิพันธบัตร 2,341.6 ล้านบาท แต่ก็มีตราสารหนี้หมดอายุถึง 4,100 ล้านบาท)

Back to top button