IIG ดีด 6% ขานรับงบ Q1 กำไร 17 ลบ. ทะยาน 152% ส่งซิกทั้งปีรายได้โต 30%
IIG อวดกำไร Q1/65 ทะยาน 151.6% อานิสงส์ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น คาดทั้งปียังเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจ CRM และ ERP ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 900-950 ลบ. คาดเติบโตกว่า 30%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG เปิดตลาดช่วงภาคบ่ายอยู่ที่ระดับ 35.50 บาท บวกไป 2.00 บาท หรือขึ้นไป 5.97% โดยทำจุดสูงสุดที่ 35.75 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 33.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26.79 ล้านบาท
เบื้องต้นราคาหุ้นฟื้นตัวส่วนหนึ่งมาจากนักลงทุนเข้าเก็งกำไรหลังจากบริษัทฯประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2565 ทำกำไรเติบโตก้าวกระโดดอย่างชัดเจน
ทั้งนี้นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IIG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการประจำไตรมาส 1 ปี 2565 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 28.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.22 ล้านบาท หรือ 151.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11.36 ล้านบาท จากผลการดำเนินงานที่เติบโตจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในธุรกิจการให้ใช้ใบอนุญาตการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการให้บริการในทุกประเภทธุรกิจ ประกอบกับมีฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้น
สำหรับรายได้รวมอยู่ที่ 222.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.72 ล้านบาท หรือ 46.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นรายได้จากการขายและให้บริการ 219.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.17 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังคงมีรายได้หลักจากธุรกิจด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) เป็นหลัก ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 112.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.38 ล้านบาท หรือ 33.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการอนุญาตให้เช่าในระบบซอฟแวร์ และรายได้จากให้บริการ CRM หลังจากการติดตั้งการใช้งาน ประกอบกับมีฐานลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามา เช่น ลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจพลังงาน นอกเหนือจากฐานกลุ่มลูกค้าเดิม
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้จากธุรกิจด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) อยู่ที่ 92.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.63 ล้านบาท หรือ 65.5% จากฐานลูกค้าใหม่ในธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ รวมถึงรายได้จากการอนุญาตให้เช่าระบบซอฟต์แวร์ (EPR On Cloud) ที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งจากฐานลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ และรายได้จากการบริการที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ การสร้างและบริหารประสบการณ์ลูกค้า (CEM) และการตลาดดิจิทัล อยู่ที่ 6.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.72 ล้านบาท หรือ 13.4% จากการให้บริการลูกค้าในกลุ่มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจโรงพยาบาล และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายยา
ขณะที่ รายได้จากธุรกิจด้านการวิเคราะห์และจัดการข้อมูลเพื่อธุรกิจ (iiG Data) มีรายได้อยู่ที่ 1.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.69 ล้านบาท หรือ 57.5% โดยมีรายได้หลักจากการให้บริการลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลและกลุ่มธุรกิจประกันชีวิต สำหรับรายได้จากบริการจัดหาบุคลากรทางด้านระบบงานสารสนเทศอยู่ที่ 5.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.75 ล้านบาท หรือ 14.9% จากลูกค้าในกลุ่มธุรกิจธนาคาร
“ ภาพรวมจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 บริษัทฯ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งเป็นผลจากการที่องค์กรธุรกิจต่างเห็นความสำคัญของการลงทุนในเรื่อง Digital Transformation ต้องการนำเทคโนโลยีด้าน Enterprise Solution ที่ทันสมัยเข้าไปใช้ในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และเพื่อรองรับกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น โดยในปีนี้ บริษัทฯ มีฐานลูกค้าใหม่ที่เป็นรายใหญ่เข้ามาเพิ่ม และประเมินว่าจะยังคงรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ รวมถึงการรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายสมชาย กล่าว
อย่างไรก็ดีในปี 2565 บริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้เติบโตประมาณ 900-950 ล้านบาท จากการออกแบบ พัฒนา และติดตั้งระบบ และการให้บริการอื่นๆ ของบริษัทฯ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด รวมถึงการหาช่องทางและโอกาสในการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพการให้บริการและเพิ่มขีดความสามารถของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ