“หุ้นพลังงาน” ร่วงยกแผง! เซ่นราคา “น้ำมัน” ทรุดกว่า 2% วิตกโรงกลั่นสหรัฐเพิ่มกำลังผลิต

“9 หุ้นพลังงาน” กอดคอร่วง! เซ่นราคา “น้ำมัน” ทรุดกว่า 2% วิตกโรงกลั่นสหรัฐฯเพิ่มกำลังผลิตรับมือกับสต็อกที่ลดลง อีกทั้งตลาดน้ำมันยังปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดหนักจากความกังวลเงินเฟ้อ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10:10 น. ราคาหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อยู่ที่ระดับ 36.50 บาท ลบ 0.25 จุด หรือ 0.68% สูงสุดที่ระดับ 36.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 36.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 99.91 ล้านบาท

ด้าน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP อยู่ที่ระดับ 157 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 0.95% สูงสุดที่ระดับ 158 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 155 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 441.73 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC อยู่ที่ระดับ 46.25 บาท ลบ 0.75 บาท หรือ 1.60% สูงสุดที่ระดับ 46.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 46 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 114.87 ล้านบาท

ขณะที่ราคาหุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP อยู่ที่ระดับ 57.50 บาท ลบ 1.25 บาท หรือ 2.13% สูงสุดที่ระดับ 58 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 57.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50.30 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC อยู่ที่ระดับ 3.22 บาท ลบ 0.06 บาท หรือ 1.83% สูงสุดที่ระดับ 3.24 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 23.23 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC อยู่ที่ระดับ 11.70 บาท ลบ 0.30 บาท หรือ 2.50% สูงสุดที่ระดับ 2.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70.95 ล้านบาท

เช่นเดียวกับราคาหุ้น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP อยู่ที่ระดับ 34.75 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 1.42% สูงสุดที่ระดับ 35 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 34.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 16.12 ล้านบาท

รวมถึงบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO อยู่ที่ระดับ 9.60 บาท ลบ 0.20 บาท หรือ 2.04% สูงสุดที่ระดับ 9.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 9.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18.39 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO อยู่ที่ระดับ 3.26 บาท ลบ 0.04 บาท หรือ 1.21% สูงสุดที่ระดับ 3.26 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.72 ล้านบาท

โดยหุ้นพลังงานปรับตัวลดลงตามสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (18 พ.ค.) หลังมีรายงานว่าโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐเร่งเพิ่มการผลิตเพื่อรับมือกับสต็อกที่ลดลงอย่างมาก นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ทรุดตัวลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.81 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.59  ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.82 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 109.11 ดอลลาร์/บาร์เรล

โดยสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังมีรายงานว่า โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐต่างก็เร่งเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อรับมือกับสต็อกเชื้อเพลิงที่ลดลงอย่างมาก โดยขณะนี้ศักยภาพการกลั่นในเขตอีสต์โคสต์และกัลฟ์โคสต์อยู่เหนือระดับ 95% ซึ่งบ่งชี้ว่าบรรดาโรงกลั่นได้ดำเนินการผลิตใกล้ถึงขีดจำกัดสูงสุด

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล

ขณะที่นักลงทุนจับตาความคืบหน้าเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า สหรัฐจะผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานต่อเวเนซุเอลา เพื่อเปิดทางไปสู่การเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่สหรัฐหนุนหลัง

โดยการผ่อนคลายดังกล่าวครอบคลุมถึงการอนุญาตให้บริษัทเชฟรอน คอร์ป สามารถเจรจาโดยตรงกับบริษัท PDVSA ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของเวเนซุเอลา ทั้งนี้ เวเนซุเอลา ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ประสบปัญหาการส่งออกน้ำมันลดลงต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ เนื่องจาก PDVSA ถูกกระทรวงการคลังสหรัฐคว่ำบาตร

Back to top button