IND ดีด 7% หลังคว้างานเพิ่ม ดันแบ็คล็อกทะลุ 2 พันลบ. ลุ้นรายได้ปีนี้โต 25%
IND เด้ง 7% หลังคว้างาน “ออกแบบ-ก่อสร้างเปลี่ยนแนวท่อขนส่งน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อน” มูลค่า 172.48 ลบ. ดันแบ็คล็อกทะลุ 2.14 พันลบ. หนุนรายได้ปีนี้โต 20-25%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (23 พ.ค. 2565) ราคาหุ้น บริษัท อินเด็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IND ณ เวลา 10:18 น. อยู่ที่ระดับ 2.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.16 บาท หรือ 6.78% โดยทำจุดสูงสุดที่ 2.56 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 2.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62.60 ล้านบาท
ดร.พรลภัส ณ ลำพูน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IND เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ลงนามสัญญาจ้างออกแบบรายละเอียดและก่อสร้างโครงการเปลี่ยนแปลงแนวท่อขนส่งน้ำมัน ในพื้นที่ทับซ้อน โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ช่วงพญาไท – บางซื่อ – หมู่บ้านกลางกรุง จากบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) โดยมีมูลค่าสัญญา 172,484,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการราว 9 เดือน
ทั้งนี้ภายหลังจากการรับงานใหม่ส่งผลให้งานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 2,147.28 ล้านบาท (สิ้นสุด ณ วันที่ 23 พฤษภาคม 2565) โดยจะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป และมั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนให้ผลงานปีนี้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 20-25% ซึ่งในช่วงที่เหลือของปีนี้ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของภาครัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดีขึ้น โดยรัฐบาลได้เร่งรัดให้มีงานโครงสร้างพื้นฐานใหญ่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีโอกาสเข้าร่วมประมูล โครงการออกแบบและก่อสร้างใหม่ๆ เพิ่มอีกหลายโครงการ ถือเป็นโอกาสในการขยายการเติบโตทางธุรกิจและเพิ่มศักยภาพผลการดำเนินงานให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“จากประสบการณ์งานด้านวิศวกรรมที่ปรึกษาต่างๆ มากว่า 38 ปี รวมถึงบริษัทฯ มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญในการให้บริการงานด้านวิศวกรรม ถือว่ามีศักยภาพมากพอที่ทำให้ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจาก FPT ซึ่งการได้รับการพิจารณาดำเนินโครงการในครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานสามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพและมั่นคงมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถรับงานในโครงการอื่นๆ ในอนาคตเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานเติบโตมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีความพร้อมในทุกๆ ด้านที่จะรับงานทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อต่อยอดให้ธุรกิจที่ดำเนินการอยู่เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต” ดร.พรลภัส กล่าว
อนึ่งภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2565 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565) ของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 13.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.59 ล้านบาท หรือคิดเป็น 255.25 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากการให้บริการจำนวน 153.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 77.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 101.35% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 76.09 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 พลิกกลับมาเป็นบวกได้ เป็นผลมาจากการส่งมอบงานโครงการขนาดใหญ่ เช่น ออกแบบพร้อมก่อสร้าง – ระบบบริการน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน สนามบินอู่ตะเภา, ออกแบบและก่อสร้าง ถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน T-2306 และมีงานที่ส่งมอบให้แก่ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย เช่น งานออกแบบพร้อมก่อสร้างสถานีบริการเติมน้ำมันท่าอากาศยานดอนเมือง, งานออกแบบพร้อมก่อสร้างคลังน้ำมันจังหวัดลำปาง เป็นต้น