STARK วิ่งต่อ 3% ลุ้นรายได้ปีนี้ 3 หมื่นลบ. เน้นขายสินค้ามาร์จิ้นสูง-รุกธุรกิจ EV

STARK บวกต่อ 3% ผบห.ย้ำเป้ารายได้ปีนี้แตะ 3 หมื่นลบ. ชูกลยุทธ์เน้นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง-คุมค่าใช้จ่าย และขยายฐานรายได้เข้าสู่ธุรกิจ EV


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ณ เวลา 10:13 น. อยู่ที่ระดับ 4.86 บาท บวก 0.16 บาท หรือ 3.40% สูงสุดที่ระดับ 4.98 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.76 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 145.04 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น STARK ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อจากเมื่อวันศุกร์ คาดมาจากแรงเก็งกำไรหลังผลประกอบการไตรมาส 1 เติบโต รวมถึงประเด็นการถูกดึงเข้าคำนวนดัชนี MSCI Small Cap

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายประกรณ์ เมฆจำเริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร STARK เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 31.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 441 ล้านบาท และมีรายได้หลัก 6,176 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,521 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้หลัก 4,655 ล้านบาท

โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลประกอบการมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากการรับรู้ผลประกอบการของการลงทุนที่ประเทศเวียดนาม หลังการเข้าลงทุนแล้วส่งผลทำให้เกิดการรวมคำสั่งซื้อวัตถุดิบ การแลกเปลี่ยนความรู้และเทคนิคในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีต้นทุนที่ลดลงและมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะการลดอัตราการสูญเสียในกระบวนการผลิต (Scrap rate) ประกอบกับยอดขายที่ปรับตัวสูงขึ้นจากโครงการภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินการก่อสร้างอย่างต่อเนื่องตามแผนงานและกำหนดการ

นอกจากนี้ ด้วยกลยุทธ์การมุ่งเน้นกลุ่มสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง (High margin product) โดยเฉพาะกลุ่มสายไฟแรงดันระดับกลางจนถึงระดับสูงพิเศษ (Medium–Extra High Voltage) เพื่อรองรับโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชนที่มีการเติบโตสูง ตลอดจนนโยบายในการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการร่วมกันของกลุ่มบริษัทอย่างมีระบบ ยังส่งผลให้กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น 31.9% อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมามีราคาวัตถุดิบหลักมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่บริษัทได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากบริษัทมีนโยบายการบริหารแบบ Pass-through หรือ Cost-plus strategy ซึ่งคำสั่งซื้อส่วนใหญ่จะมีการกำหนดราคาวัตถุดิบและจำนวนที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นตามนโยบายการจัดซื้อของบริษัทที่ไม่ให้มีการเก็งกำไรจากราคาวัตถุดิบ อีกทั้งบริษัทดำเนินการลงบัญชีอย่างรอบคอบและระมัดระวัง ดังนั้น สินค้าคงเหลือและวัตถุดิบจะแสดงมูลค่าตามราคาทุนเท่านั้น ไม่มีการปรับมูลค่าตามราคาตลาด

ด้านแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 ยังคงเป้าหมายรายได้อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีแผนการขยายฐานรายได้เข้าสู่ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างยิ่ง และจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงชุดสายไฟตามเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือน

โดยต้องมีสายไฟเป็นตัวเชื่อมระหว่าง EV และอื่น ๆ เช่น Charging station ในสถานีบริการน้ำมัน, Charging box ในบ้าน, อาคาร, สำนักงาน หรือห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ เพื่อรองรับขนาดกำลังไฟฟ้า และปริมาณการใช้ไฟที่มากขึ้น

Back to top button