HL บวกแรง 5% แย้ม Q2 โตต่อ ปักธงรายได้ปีนี้เข้าเป้า 10% เล็งผุด 10 สาขาใหม่
HL บวกแรง 5% แย้ม Q2 โตต่อ ปักธงรายได้ปีนี้เข้าเป้า 10% เล็งผุด 10 สาขาใหม่ โดย ณ เวลา 10.27 น. อยู่ที่ระดับ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (23 พ.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท เฮลท์ลีด จำกัด (มหาชน) หรือ HL ณ เวลา 10.27 น. อยู่ที่ระดับ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 4.63% โดยทำจุดสูงสุดที่ 29.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่27.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51.38 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร HL ธุรกิจร้านขายยาค้าปลีก ในรูปแบบ Chain Drug Store เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 14 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 375 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากงวดเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 259 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ ได้มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง ส่งผลให้จำนวนสาขาอยู่ที่ 27 แห่ง และจำนวนฐานสมาชิกปรับตัวขึ้นเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนทำให้มียอดขายที่เติบโตได้เป็นอย่างดี รวมทั้งบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ความสามารถของอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 23.9% สูงกว่า 22.3% ของงวดเดียวกันปีก่อน
“ในงวดไตรมาส 1/2565 ภาพรวมของการดำเนินธุรกิจยังอยู่ในทิศทางที่ดีและเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเกิดขึ้นในวงกว้างและอาการไม่รุนแรง ทำให้คนส่วนใหญ่หันมาดูแลรักษาด้วยตัวเอง ทำให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภทสินค้าอุปกรณ์การแพทย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ สนับสนุนยอดขายทั้งจากสาขาเดิมและสาขาใหม่เติบโตได้ดี ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 2/2565 ประเมินว่าน่าจะอยู่ในทิศทางที่ดีได้ต่อเนื่อง” ภก.ธัชพล กล่าว
ส่วนแผนธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมจะเติบโตมากกว่า 10% จากปี 2564 ที่มีรายได้รวม 1,216 ล้านบาท โดยเติบโตตามการขยายตัวของสาขาใหม่และมีฐานสมาชิกที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และการออกผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ให้มีความหลากหลายตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกกลุ่มอายุ
โดยบริษัทฯ มีแผนจะเปิดสาขาใหม่ จำนวน 10 สาขา ซึ่งเซ็นสัญญาไปแล้ว 9 แห่ง โดยได้เปิดให้บริการในไตรมาส 1/2565 จำนวน 1 สาขา ในซอยทองหล่อ และอีก 1 สาขา ในย่านซอยลาซาล ในไตรมาส 2/2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนสาขารวมอยู่ที่ 28 สาขา และเตรียมเปิดอีก 3 สาขาในไตรมาส 2/2565 ส่วนที่เหลือเตรียมเปิดในครึ่งปีหลัง โดยจะเน้นพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เนื่องจากเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง
ทั้งนี้การเปิดสาขาใหม่จะแบ่งเป็นร้านขนาดกลาง พื้นที่ใช้สอย 80-150 ตารางเมตร จำนวน 8 สาขา ใช้งบลงทุนราว 2-3.75 ล้านบาทต่อสาขา และร้านขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 150-300 ตารางเมตร จำนวน 2 สาขา ใช้งบลงทุนราว 3.75-6 ล้านบาทต่อสาขา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งเพิ่มพัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่มากขึ้นภายใต้แบรนด์ของตัวเอง เพื่อเจาะกลุ่มตลาดในประเทศไทยและต่างประเทศ พร้อมทั้งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ PRIME และ BESUTO มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด