SENA บวกแรง 5% รับแผน Q2 ผุด 5 โครงการใหม่ 2.7 พันลบ. ฟากราคาต่ำบุ๊ก
SENA บวกแรง 5% กางแผนไตรมาส 2/65 เตรียมเปิด 5 โครงการ มูลค่ารวม 2,700 ล้านบาท ฟากราคาต่ำบุ๊ก โดย ณ เวลา 12:09 น. อยู่ที่ระดับ 4.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (24พ.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ณ เวลา 12:09 น. อยู่ที่ระดับ 4.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 5.00% โดยทำจุดสูงสุดที่ 4.42 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 4.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 55.26 ล้านบาทโดยราคาหุ้นล่าสุดต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีอยู่ที่ระดับ 5.64 บาท
โดยก่อนหน้านี้(5พ.ค.65) ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ SENA เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2565 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 2,700 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ และโครงการแนวราบ 1 โครงการ โดยแบ่งเป็นโครงการจากบริษัท เจ. เอส. พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP (ณ วันที่ 1 มีนาคม 2565 SENA ถือหุ้นในสัดส่วน 35.35%) จำนวน 1 โครงการ และเป็นโครงการร่วมทุน (JV) กับพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่นอย่างฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป จำนวน 4 โครงการ
“กลุ่มฮันคิว ฮันชิน ที่เป็นพันธมิตรของเรา ยังคงเดินหน้าในความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันเขามองประเทศไทยด้วยความเข้าใจ ซึ่งโควิด-19 ไม่ใช่เรื่องใหม่ คนเรียนรู้ที่จะอยู่ได้แล้ว ขณะที่บ้านก็เป็นปัจจัย 4 ซึ่งก็มีคนซื้อทุกวัน เพียงแต่จำนวนผู้ซื้อน้อยลงกว่าช่วงที่ก่อนเกิดโควิด-19 อีกทั้งกลุ่มผู้ประกอบการในประเทศไทยยังสามารถเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง เทียบกับในประเทศญี่ปุ่นที่มีการชะลอตัวลง” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว
สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ขึ้นอยู่กับความมั่นใจของประชาชนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร ซึ่งการท่องเที่ยวเป็นเรื่องของความรู้สึก และหากประเทศไทยยังไม่ปลอดภัย นักท่องเที่ยวต่างชาติก็คงยังไม่เกิดความสบายใจที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว แต่หลังมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดใหม่ อาจจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นใจให้กับประชาชนได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ในภาวะปัจจุบันที่มีแต่ปัจจัยลบ ทั้งเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้น มีคนตายต่อเนื่อง และต้นทุนต่าง ๆ ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แพงขึ้น แต่มีดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ ถือเป็นปัจจัยบวกในภาวะที่มีปัจจัยลบรอบด้าน
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 ยังคงชะลอตัว แม้ยอดขาย (Presale) ของโครงการแนวราบขายดีมาก แต่ในแง่ของการโอนกรรมสิทธิ์ บริษัทไม่สามารถส่งมอบได้ทัน เนื่องจากสร้างไม่ทัน เพราะปัจจุบันแรงงานยังขาดแคลน ส่วนคอนโดมิเนียมในระดับกลาง-ล่าง ยังพอไปได้ แต่คอนโดมิเนียมในระดับบนชะลอตัว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสรุปตัวเลขที่ชัดเจน
ทั้งนี้ ปัจจุบันแรงงานต่างชาติยังคงขาดแคลน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังส่งผลกระทบ ทำให้แรงงานต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ และยังไม่สามารถตอบได้ว่าแรงงานต่างชาติจะสามารถกลับมาได้เมื่อไรขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่บริษัทได้หันมาใช้วัสดุแบบพรีคาสท์ (Precast) มากขึ้น แต่ด้วยภาวะของแรงงานที่ยังขาดอยู่ ส่งผลให้ราคาของวัสดุแบบ Precast แพงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นภาระที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับไป