CENTEL ปิดบวก 3% ลุ้น Q2 ฟื้น อานิสงส์เปิดประเทศ โบรกชูเป้า 50 บ.
CENTEL ปิดบวก 3% ราคาแตะ 42.25 บ. ลุ้นไตรมาส 2/65 ฟื้นตัวรับอานิสงส์เปิดประเทศ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้น หนุนท่องเที่ยวขยายตัว โบรกประเมินราคาเป้าหมาย 50 บ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 พ.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ปิดตลาดวันนี้ อยู่ที่ระดับ 42.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท หรือ 3.05% ทำจุดสูงสุดที่ 43.00 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ 41.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 256.02 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ( 19 พฤษภาคม 2565) หลังจากการประชุมนักวิเคราะห์ วันที่ 18 พฤษภาคม 2565 ว่า ผู้บริหาร CENTEL ยังคงเป้าหมายการเติบโตปี 2565 ในธุรกิจโรงแรม โดยมีอัตราการเข้าพักอยู่ที่ 40-50% สำหรับทางฝ่ายวิจัยคาดราวประมาณ 45%, รายได้เฉลี่ยต่อห้องอยู่ที่ 1,700-1,900 บาท ขณะที่ทางฝ่ายวิจัยคาดอยู่ที่ 1,900 บาท ส่วนธุรกิจอาหารตั้งเป้ายอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) จะเติบโตได้ที่ 10-15% (ฝ่ายวิจัยคาดอยู่ที่12%) และคาดอัตราการเติบโตของสาขาทั้งหมด (TSSG) ที่ 20-25% (ฝ่ายวิจัยคาดอยู่ที่ 20%)
ส่วนการอัพเดทธุรกิจโรงแรมเดือน เมษายน 2565 มีอัตราการเข้าพักดีสุดในรอบปีอยู่ที่ 50% จากไตรมาส 1/2565 ที่ 29% ขณะที่เดือนพฤษภาคม 2565 เริ่มอ่อนตัวลงเพราะเป็นช่วง low season ที่มัลดีฟส์ แต่ไทยยังช่วยหนุนให้ มีการเติบโตได้เพราะการผ่อนคลายการเปิดประเทศ
ขณะที่ธุรกิจอาหาร SSSG เดือนเมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และยังเพิ่มต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม 2565 อีก 40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากไตรมาส 1/2565 ที่เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนึ่งเกิดจากฐานต่ำในปีก่อน และการบริโภคที่ฟื้นตัวได้ดี
ด้านต้นทุนน้ำมันปาล์ม (สัดส่วนน้อยกว่า 10% ของต้นทุนรวม) ที่เพิ่มขึ้นน่าจะกดดันให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในไตรมาส 2/2565 ลดลงได้แต่ไม่มาก เพราะ CENTEL จะมีการปรับราคาอาหารเพิ่มขึ้นอีกโดยปรับในส่วนของโปรโมชั่นให้น้อยลง ทำให้ผู้บริหารยืนยันระดับ GPM ของธุรกิจอาหารจะไม่ต่ำกว่าไตรมาส 2/2564 ที่ 44.2% จากไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 45.8%
สำหรับปี 2565 บริษัทไม่มีแนวโน้มลงทุนในธุรกิจอาหารเพิ่มแล้ว โดยคาดว่าโอกาสดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ในปีถัดไป ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบประเมินผลทรัพย์สิน (Due Diligence)
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าไตรมาส 1/2565 งบประมาณการเงินจะออกมาต่ำกว่าคาด แต่ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประโยชน์ทางภาษีจะถูกนำมาใช้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทำให้ยังคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 2565 อยู่ที่ 307 ล้านบาท ฟื้นตัวได้ดีจากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิที่ 1.7 พันล้านบาท
ขณะที่คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 จะขาดทุนลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เพราะภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้อย่างชัดเจนหลังจากที่ไทยมีนโยบายผ่อนคลายการเข้าประเทศมากขึ้น แต่จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า เพราะผ่านช่วง Peak season ในไตรมาส 4/2564 ถึงไตรมาส1/2565 ไปแล้ว
นอกจากนี้ ยังคงมองสถานการณ์การท่องเที่ยวในครึ่งปีหลัง 2565 จะฟื้นตัวได้ดีจากการเตรียมยกเลิก Thailand pass ในวันที่ 1 มิถุนายน 2565 และการประกาศโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 แต่ยังมีความเสี่ยงจากการระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ รวมถึงการบริโภคภายในประเทศที่จะฟื้นตัวช้ากว่าคาด ประเมินราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 50.00 บาท