“หุ้นโรงกลั่น” ร่วงหนัก หลัง “สุพัฒนพงษ์” จ่อลดค่าการกลั่น กดกำไรฮวบ 20%
“6 หุ้นโรงกลั่น” ร่วงหนัก หลัง “สุพัฒนพงษ์” ตั้งท่าแทรกแซงลดค่าการกลั่นลงเพื่อพยุงราคาขายปลีกน้ำมัน ฟากโบรกคาดกระทบกำไรลดฮวบ 20%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ เวลา 10:03 น. ราคาหุ้น บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC อยู่ที่ระดับ 12.30 บาท ลบ 0.70 บาท หรือ 5.38% สูงสุดที่ระดับ 12.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 12.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 157.28 ล้านบาท
ด้านราคาหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO อยู่ที่ระดับ 11.60 บาท ลบ 0.60 บาท หรือ 4.92% สูงสุดที่ระดับ 11.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64.21 ล้านบาท
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP อยู่ที่ระดับ 54.75 บาท ลบ 2 บาท หรือ 3.52% สูงสุดที่ระดับ 54.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 54.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 222.85 ล้านบาท
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP อยู่ที่ระดับ 32 บาท ลบ 2.25 บาท หรือ 6.57% สูงสุดที่ระดับ 33 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 31.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 79.79 ล้านบาท
บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC อยู่ที่ระดับ 3.42 บาท ลบ 0.08 บาท หรือ 2.29% สูงสุดที่ระดับ 3.42 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.38 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35.10 ล้านบาท
บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC อยู่ที่ระดับ 46 บาท ลบ 1.25 บาท หรือ 2.65% สูงสุดที่ระดับ 46.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 45.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 67.58 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นโรงกลั่นปรับตัวลดลงจากกรณี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงอยู่ระหว่างการพิจารณาแทรกแซงค่าการกลั่นโดยอาจปรับลดค่าการกลั่นลง เพื่อลดราคาขายน้ำมันดีเซลและกลุ่มเบนซินที่หน้าสถานีบริการน้ำมัน เนื่องจากขณะนี้ค่าการกลั่นอยู่ในระดับ 20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ปรับตัวลดลงอย่างหนัก
ทั้งนี้ นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ FSSIA ระบุว่า หากกระทรวงพลังงานปรับลดค่าการกลั่นลงมา 1 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นประมาณ 5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จะส่งผลกระทบต่อกำไรในปีนี้ของกลุ่มโรงกลั่นกว่า 20%
โดยมองว่าจะสร้างผลกระทบต่อบริษัท SPRC มากที่สุด เนื่องจากเป็นโรงกลั่นเพียงอย่างเดียว รองลงมาเป็น ESSO, TOP, BCP ขณะที่ IRPC และ PTTGC จะได้รับผลกระทบจำกัดประมาณ 10% ของกำไรสุทธิ