ด่วน! Binance ห้ามลูกค้าถอน “บิตคอยน์” ชั่วคราว หลังหลุด 24,000 เหรียญ

นายจ้าว ชางเผิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Binance ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการถอนสกุลเงินบิตคอยน์เป็นการชั่วคราวในวันนี้(13 มิ.ย.256)

“บริษัทขอระงับการถอนบิตคอยน์เป็นการชั่วคราว อันเนื่องจากความคับคั่งของปริมาณการทำธุรกรรม ซึ่งบริษัทคาดว่าจะกลับมาให้บริการอีกภายใน 30 นาที” นายจ้าวระบุในทวิตเตอร์

สำหรับการประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากที่เซลเซียส เน็ตเวิร์กส์ (Celsius Networks) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มปล่อยกู้คริปโทเคอร์เรนซีใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศระงับการให้บริการด้านการถอน การแลกเปลี่ยน และการโอนระหว่างบัญชีทั้งหมดเป็นการชั่วคราว เนื่องจากตลาดประสบความผันผวนอย่างหนัก

โดยมูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกวูบหายไปกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลต่อการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT) ซึ่งจะฉุดสภาพคล่องในตลาด

ทั้งนี้ ข้อมูลของ Coinmarketcap.com ซึ่งรวบรวมราคาสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 1,000 สกุลจากตลาดซื้อขายทั่วโลก พบว่า มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.2564

ก่อนหน้านี้ มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลพุ่งแตะระดับ 2.9 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 24,000 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563 ใกล้หลุด 800,000 บาทในวันนี้ (13 มิ.ย.2565) หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งอาจทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ขณะนี้บิตคอยน์ทรุดตัวลงกว่า 60% นับตั้งแต่พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์ในเดือนพ.ย.2564 หรือราว 2,400,000 บาท

นักลงทุนกังวลว่าการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดขนาดงบดุลจะฉุดสภาพคล่องในตลาด และส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย หลังจากที่หดตัว 1.4% ในไตรมาส 1/65

อย่างไรก็ตามผูู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมล่าสุด(13 มิ.ย.2565) ณ เวลา 22.45 น.ตามเวลาไทย นายจ้าวได้ทวีตข้อความครั้งใหม่ โดยระบุว่าบริษัทอาจจะต้องใช้เวลาแก้ไขปัญหานานกว่าที่คาดไว้  “แต่ปัญหาดังกล่าวกระทบต่อเครือข่ายบิตคอยน์เท่านั้น โดยลูกค้ายังคงสามารถถอนบิตคอยน์ได้จากเครือข่ายอื่น เช่น BEP-20” ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ