3 หุ้นไก่ตีปีก! รับอานิสงส์บาทอ่อนค่า- GFPT นำทีมบวก 4%
3 หุ้นไก่ตีปีก! รับอานิสงส์บาทอ่อนรอบ 5 ปี แตะ 35 บ.-พ่วงราคาหมู-ไก่พุ่งสูง GFPT นำทีมบวก 4%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร บวกสวนตลาด รับค่าเงินบาทอ่อนค่าส่งผลดีต่อการส่งออก และราคาหมูทรงตัวสูงและไก่ปรับตัวขึ้นนำโดย บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT ณ เวลา 10.35 น.อยู่ที่ระดับ 18.60 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.91% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 248.67 ล้านบาท
ส่วนบริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ณ เวลา 10.37 น.อยู่ที่ระดับ 5.70 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 3.64% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 94.42 ล้านบาท
ส่วนบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ณ เวลา 10.38 น. อยู่ที่ระดับ 26.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ
ด้านบล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาหมูในประเทศยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ราคาไก่เพิ่มขึ้น 2.0% เป็น 41.80 บาท/กก. โดยราคาหมูในประเทศจีนและเวียดนามกำลังมีแนวโน้มจะฟื้นตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อ spread ของผู้ผลิต โดย spread ของหมูเพิ่มขึ้น 11.3% เทียบเดือนก่อนหน้า และของไก่เพิ่มขึ้น 5.3% เทียบในเดือนพฤษภาคม คาดว่า spread ของทั้งหมูและไก่ในไตรมาส 2/65 จะดีขึ้นเทียบไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนกำไรของผู้ผลิตเนื้อสัตว์
ในขณะเดียวกัน USDA ได้ปรับเพิ่มประมาณการสต็อกสิ้นงวดของข้าวโพด และถั่วเหลืองในปี 2565/66MY เราไม่ค่อยห่วงราคากากถั่วเหลืองมากนัก แต่ยังเป็นห่วงราคาข้าวโพด เพราะอุปทานจากยูเครนลดลงอย่างมากจากกรณีพิพาทกับรัสเซีย แนะนำซื้อ CPF,GFPT ,TFG โดยเลือก TFG เป็นหุ้นเด่นขอในกลุ่มนี้
ส่วนบล.ทรีนีตี้ ระบุว่า กลุ่มหุ้นส่งออกจำพวก FOOD & AGRI เช่น ASIAN, CPF, GFPT, KSL ที่สามารถเก็งกำไรล้อตามการอ่อนค่าของเงินบาทในระยะสั้นได้
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(15 มิ.ย.2565) ว่า ค่าเงินบาทอ่อนค่าจากเงินเฟ้อไทยที่สูง 7.1% ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายตรึงไว้ที่ระดับต่ำ 0.5% บวกต่อหุ้นส่งออก GFPT(แนะซื้อราคาเป้าหมาย 20 บาท ), CPF (Trading-ราคาเป้าหมาย 28 บาท ), SAPPE(แนะซื้อ-ราคาเป้าหมาย 38 บาท), MEGA (แนะซื้อ-ราคาเป้าหมาย 65 บาท), ASIAN (แนะซื้อ-ราคาเป้าหมาย 21.6 บาท), KCE (แนะซื้อ-ราคาเป้าหมาย 80 บาท) ที่น่าจะ Outperform ฝ่าเงินเฟ้อ
ด้านบล.กสิกรไทย ระบุว่า ประเด็นที่เป็นกระแส หลักๆคือ “ค่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 5 ปีแตะ 35 บาท” ผลจากสกุลดอลลาร์ Dollar Index แข็งค่าทำจุดสูงสุดและยืนเหนือ 105 จุด โดยรวมเงินบาทที่อ่อนจะบวกต่อหุ้นส่งออก
จากการศึกษาของ KS เงินบาทที่อ่อนค่าทุก 1 บาทจะส่งผลบวกต่อ Bottom line โดย SVI +25%, KCE, ASIAN +15%, TU +8%, GFPT +1% แต่จะกระทบกักลุ่มโรงไฟฟ้า คือ BGRIM -9.9%, EGCO -8.4% คาดจะได้ Sentiment เชิงลบ) โดย KS แนะนําเน้นลงไปที่กลุ่มส่งออกอาหาร อาทิ