ASAP พุ่งแรง 10% รับเปิดเมืองนักท่องเที่ยวฟื้น! ดันยอดรถเช่าพุ่ง

ASAP พุ่งแรง 10% รับเปิดเมืองนักท่องเที่ยวฟื้น! ดันยอดบริการรถเช่าพุ่ง ลุ้นผลงานปีนี้ “เทิร์นอะราวด์”  


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้(30 มิ.ย.2565) ราคาหุ้นบริษัท ซินเนอร์เจติค ออโต้ เพอร์ฟอร์มานซ์ จำกัด (มหาชน)  หรือ ASAP ณ เวลา 15:06 น. อยู่ที่ระดับ 4.02  บาท ปรับตัวขึ้น 0.38 บาท หรือ 10.44% ราคาสูงสุด 4.30 บาท ราคาต่ำสุด 3.68 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180.40 ล้านบาท  คาดเก็งกำไรเปิดเมืองหนุนนักลงทุนเที่ยวเพิ่ม เป็นบวกธุรกิจ

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 มีกำไรสุทธิ 5.11 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนอยู่ที่ 32.28 ล้านบาทเนื่องจากมีกำไรจากการขายรถยนต์ เนื่องจากราคาตลาดรถยนต์มือสองปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายบริหาร ผลขาดทุนด้านเครดิตที่อาจจะเกิดขึ้น และต้นทุนการเงินที่ลดลง คาดผลงานไตรมาส 2/2565 โตต่อเนื่องและลุ้นผลงานปีนี้พลิกมีกำไร

บล.ทิสโก้ ระบุว่า หุ้นกลุ่มผู้ประกอบการรถเช่าที่ปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าจะมาจากปัจจัยหนุนของการท่องเที่ยวที่เริ่มทยอยฟื้นกลับมา และกิจกรรมเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น หลังจากเปิดเมืองและเปิดประเทศ ซึ่งหุ้นกลุ่มรถเช่านักลงทุนอาจจะหันมามองโอกาสลงทุนเป็นลำดับถัดจากกลุ่มโรงแรมและสนามบินที่ได้รับประโยชน์ก่อน

ส่วนกรณีของ ASAP จะได้รับผลดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศต่อเนื่อง และมีการเช่ารถขับในหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามามีการใช้รถเช่าเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 4 ส่วนต่อขยาย”ว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเพิ่ม 1.5 ล้านสิทธิ และขยายระยะเวลาโครงการไปจนสิ้นสุดเดือนตุลาคม 2565 โดยเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ไปเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมาเป็นวันแรก ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดี ประชาชนให้ความสนใจ ลงทะเบียนเพื่อใช้บริการช่วงเดือนกรกฎาคมที่มีวันหยุดยาวติดต่อกัน

สำหรับ “โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4” เป็นโครงการที่รัฐบาลดำเนินการต่อเนื่อง ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของภาคประชาชนผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมทั้งสร้างงานสร้างอาชีพ ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม

Back to top button