ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงต่อภาคบ่ายนี้ เหตุวิตกเฟดขึ้นดบ.-ศก.จีนชะลอตัว

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากแรงเทขายที่มีเข้ามา รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในการซื้อขายภาคบ่ายวันนี้ เนื่องจากแรงเทขายที่มีเข้ามา รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ และเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง

โดยดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ 22,456.45 จุด ลดลง 270.32 จุด, -1.19% ส่วนดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสร่วงลงไปกว่า 1%

ทั้งนี้ในวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอลงจากอัตราการขยายตัว 1.6% ในเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะปรับขึ้น 1.5%

หากเทียบรายเดือน ดัชนี CPI เดือนต.ค.ลดลง 0.3%

โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ปรับตัวลง 5.9% เมื่อเทียบรายปี ในเดือนต.ค. ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากในเดือนก.ย.ที่หดตัวลง 5.9% เช่นกัน เทียบรายปี

ด้านกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย.ปีนี้ พุ่งขึ้นกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการเกินดุลในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมทั้งยอดการนำเข้าที่ปรับตัวลดลง อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบร่วงลง

ทั้งนี้ ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงเดือนเม.ย.-ก.ย. อยู่ที่ 8.6938 ล้านล้านเยน (7.059 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 4.3 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เพราะได้แรงหนุนจากรายได้ในต่างประเทศที่สูงขึ้น อันเป็นผลมาจากสกุลเงินเยนที่อ่อนค่าลง

Back to top button