J ปิดเทรดที่ 3.88 บ. เหนือจองกว่า 40%

J ปิดเทรดที่ 3.88 บ. เหนือจองกว่า 40% โดยราคาบวก 1.11 บ. หรือ 40.07% สูงสุดที่ 5.15 บ. ต่ำสุดที่ 3.88 บ. จากราคา IPO ที่ 2.77 บ. มูลค่าซื้อขายที่ 1.63 พันลบ.


บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ J ปิดเทรดวันแรก ราคาอยู่ที่ 3.88 บาท บวก 1.11 บาท หรือ 40.07% สูงสุดที่ 5.15 บาท ต่ำสุดที่ 3.88 บาท จากราคา IPO ที่ 2.77 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 1.63 พันล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยโดยรวมลบ 0.30%

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” J เห็นว่ากำไรหลักไตรมาส 2 ปี 58 ที่เพิ่งประกาศออกมาลดลง 19% จากปีก่อนเป็น 16 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีแรกของปี 58 มีกำไรหลักเป็น 38 ล้านบาท เพิ่ม 7% จากปีก่อน คาดการณ์รายได้ปีนี้และปีหน้าเพิ่ม 19%/10% จากปีก่อนตามลำดับสำหรับกำไรสุทธิเพิ่ม 11%/10% จากปีก่อนตามลำดับ

ทั้งนี้ P/E ปี 59 จากราคาจองเป็น 15.3 เท่า ถือว่าไม่ถูก หากพิจารณา P/E ปัจจุบันของ SF และ CPN เป็น 12.9 และ 26.3 เท่าตามลำดับ หากกำหนดให้ P/E เหมาะสมสำหรับ J ปี 59 เป็น 16-17 เท่า จะได้ราคาพื้นฐานที่ 2.89-3.07 บาท สูงกว่าราคาจอง 4%-11% ตามลำดับ

โดยปัจจัยบวกคือ มีรายได้เป็นค่าเช่าที่ไม่ผันผวนมาก มีบริษัทแม่คือ JMART คอยสนับสนุน แต่ปัจจัยเสี่ยงคือ การแข่งขันที่สูง เพราะปัจจุบันห้างสรรพสินค้าทุกแห่งต่างมีพื้นที่สำหรับจำหนายสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี่ แบรนด์บริษัทอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่ถึงกับได้รับความนิยมสูง

ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าขยายจำนวนพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบให้มากกว่า 100 สาขาภายในปี 2562 จากปัจจุบันที่มีสาขารวมอยู่ที่ 49 สาขา มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50%         

อนึ่ง J ประกอบธุรกิจหลักบริษัทแบ่งได้ 3 ประเภทคือ 1) บริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในศูนย์การค้าในส่วนโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี่ ภายใต้ชื่อ “IT Junction” 2) พัฒนาและบริหารพื้นที่ตลาดชุมชน ภายใต้ชื่อ “J Market” 3) พัฒนาและบริหารพื้นที่ในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน ภายใต้ชื่อ “The Jas”โดยหลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

Back to top button