D บวก 5% ลุ้นรายได้โต 30% ดันปีนี้ “เทิร์นอะราวด์”
D บวก 5% ลุ้นรายได้ปีนี้โต 30% ดันปี 65 “เทิร์นอะราวด์” รับอานิสงส์ลูกค้าไทยและลูกค้าต่างชาติกลับมาใช้บริการทันตกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ก.ค. 65) ราคาหุ้น บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ณ เวลา 15:14 น. อยู่ที่ระดับ 5.95 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 5.31% สูงสุดที่ระดับ 6.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82.13 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น D ปรับตัวขึ้นรอบใหม่ซึ่งเป็นการเข้าเก็งกำไรของนักลงทุนที่มีความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2565 และปี 2565 จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งหลังจากในช่วงไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถพลิกมีกำไรสุทธิ 7.95 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 1.85 ล้านบาท โดยมีการรับรู้รายได้จากการให้บริการธุรกิจทันตกรรมทั้งในส่วนของลูกค้าคนไทยและลูกค้าต่างชาติกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ
ทั้งนี้ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจาก ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร D เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามข้อตกลงร่วม (MOU) กับ บริษัท BenQ ซึ่งบริษัทชั้นนำจากไต้หวันเพื่อให้ D เป็นผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์ทันตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ Digital dentistry ในประเทศไทย โดยจัดจำหน่ายภายใต้บริษัท เดนทัลวิชั่น (ประเทศไทย) หรือ DVT
สำหรับ BenQ เป็นบริษัทจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยีทันตกรรมจากไต้หวัน และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ปัจจุบันได้จำหน่ายอุปกรณ์ทันตกรรมในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก และกำลังรุกคืบในตลาดอุปกรณ์เทคโนโลยีของด้านทันตกรรม
โดยการได้เป็นพันธมิตรกับ BenQ ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานการรักษาด้านทันตกรรม ให้ก้าวไปสู่โลกดิจิทัล ทันตกรรม หรือ Digital Dentistry เป็นการสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจของ D ที่จะยกระดับมาตรฐานบริการทันตกรรมของกลุ่มบริษัทให้ก้าวเข้าสู่โลก Digital Dentistry อย่างเต็มรูปแบบในอนาคตรวมทั้งการเพิ่มยอดขายอุปกรณ์ทันตกรรมของบริษัท ปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากขายอุปกรณ์ทันตกรรมอยู่ที่ 40% และตั้งเป้ารายได้โตปีนี้ไม่ต่ำกว่า 30%
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ นายณัฐสิทธิ์ สุรพันธ์ไพโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีการเงิน D กล่าวว่า บริษัทมั่นใจผลประกอบการทั้งปี 2565 จะมีกำไรสุทธิได้อย่างแน่นอน โดยคาดว่ารายได้ปี 2565 จะกลับไปใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มีรายได้ 781.48 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 25-30% ส่วนรายได้ปี 2564 อยู่ที่ 534.39 ล้านบาทและมีผลขาดทุนสุทธิ 24.23 ล้านบาท โดยจะได้รับปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าในประเทศกลับมาใช้บริการทันตกรรม