น้ำมันดิบปิดบวกหลังนักลงทุนคลายวิตกอุปทานล้นตลาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันมีแนวโน้มลดลงในปีนี้และปีหน้า รวมทั้งคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิด (10 พ.ย.) ที่ 44.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 25 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 47.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA เปิดเผยในรายงานแนวโน้มพลังงานโลกว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมน้ำมันจะลดลงมากกว่า 20% ในปีนี้ และแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงต่อเนื่องไปในปีหน้า นอกจากนี้ EIA ยังคาดการณ์ว่า การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดานของสหรัฐมีแนวโน้มลดลงเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนธ.ค.

EIA คาดการณ์ว่า ผลผลิตน้ำมันทั้งหมดของสหรัฐจะลดลง 118,000 บาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ สู่ระดับ 4.95 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2557 ส่วนในเดือนต.ค.นั้น EIA ประมาณการว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลง 40,000 บาร์เรล/วัน จากระดับของเดือนก.ย.

ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมโอเปกในวันที่ 4 ธ.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของโอเปกส่งสัญญาณว่า จะไม่มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ด้านการผลิต โดยระบุว่า การปรับลดการผลิตจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาด

Back to top button