TIPH บวก 4% โบรกแนะซื้อเป้า 83 บ. รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น-ลุ้นกำไรปีนี้โตแตะ 2 พันลบ.
TIPH บวก 4% โบรกแนะซื้อเป้า 83 บ. รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาขึ้น-ลุ้นกำไรปีนี้โตแตะ 2 พันลบ. ปี 66 ทะลุ 2.2 พันลบ. โดย ณ เวลา 10:25 น. ราคาอยู่ที่ระดับ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (18 ก.ค.2565) ราคาหุ้นบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ณ เวลา 10:25 น. ที่ระดับ 57.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ 3.59% โดยทำจุดสูงสุดที่ 58.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 56.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 139.08 ล้านบาท
บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์(18 ก.ค.65) ว่า หุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น และหุ้น Defensive หลบภัยเงินเฟ้อ รวมถึงหุ้น Reopening รายกลุ่ม (1) กลุ่มธนาคาร BBL, KBANK, KTB, SCB ,(2) กลุ่มประกันฯ BLA, TIPH, TQM ,(3) กลุ่มโรงแรมที่ได้รับผลกระทบน้อยจากต้นทุนราคาอาหารสูงขึ้น ERW,SHR, VRANDA ,(4) กลุ่มโรงพยาบาลอิงผู้ป่วยต่างชาติ BDMS, BH ,(5) กลุ่ม Utility GULF, CKP และ กลุ่มขนส่งสาธารณะ BEM ,(6) กลุ่มอ้างอิง Commodityที่ยังอยู่ในระดับสูง BANPU,SPRC, ESSO และ (7) กลุ่มอาหารได้ประโยชน์จากราคาขาย+การส่งออก CPF, TFG,GFPT
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงประมาณการกำไร TIPH ปี 2565 อยู่ที่ 2,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 1,811.47 ล้านบาท และประเมินกำไรปี 2566 อยู่ที่ 2,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน คาดว่ากำไรของ TIP น่าจะฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 จาก Loss Ratio ที่ค่อยๆปรับตัวดีขึ้นที่ 61.3 และ 59.1% ในปี 2565-2566
เนื่องจากประกันภัยโควิดที่ทยอยหมดอายุ โดยส่วนใหญ่จะหมดในเดือน พ.ค. หนุนจิตวิทยาการลงทุนเป็นบวก และสถานการณ์โควิดที่น่าจะมีความรุนแรงลดลงในอนาคต และ เบี้ยประกันภัยรับที่คาดโตอยู่ที่ 2.5 % และ 4.0% โดยหลักๆโตมาจากส่วนของประกันภัยเบ็ดเตล็ดประเภท โครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้ยังมี Upside จากแผน M&A ต่างๆที่ยังไม่ได้รวมในประมาณการ อาทิ มี โอกาส M&A จากการที่บริษัทประกันภัยเลิกกิจการ และต้องการจะ exit กิจการโดย ขณะนี้กำลังเจรจา อยู่ 1-2 บริษัท โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 83 บาท