TRUE-DTAC รูดหนัก! ส่อดีล “ควบรวม” ล่ม หลังมติอนุฯ กสทช. โหวตคว่ำ 3:1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 22 ก.ค.65 หลังจากตลาดเปิดทำการในช่วงภาคบ่ายราคาหุ้นของ DTAC และ TRUE เกิดการรูดหนัก สำหรับ ณ เวลา 15:00 น. ราคาหุ้น บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC อยู่ที่ระดับ 43.25 บาท ลบไป 4.00 บาท หรือลงไป 8.47% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 48.50 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 42.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,212.89 ล้านบาท

ขณะที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE อยู่ที่ระดับ 4.42 บาท ลบไป 0.42 บาท หรือลงไป 8.68% ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 4.96 บาท ทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 4.34 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3,153.20 ล้านบาท

โดยหลังจากที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีมติลงวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อแต่งตั้งอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจระหว่างบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE และ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC จำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย

1.อนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง

2.อนุกรรมการด้านกฎหมาย

3.อนุกรรมการด้านเทคโนโลยี

4.อนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์

ซึ่งมีกรอบเวลาให้หาข้อสรุปเพื่อทำรายงานเสนอมายังบอร์ด กสทช.เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะ “อนุญาต” หรือ “ไม่อนุญาต” ให้ดำเนินการหรือไม่

โดยล่าสุดหลังจากที่อนุกรรมการได้ประชุมกันในชั้นของตัวเองเป็นเวลากว่า 2 เดือน ผลสรุปที่เสนอส่งเป็นรายงานให้แก่คณะทำงานประสานงานคณะอนุกรรมการเพื่อศึกษาและวิเคราะห์กรณีการรวมธุรกิจของทรูและดีแทคที่มีนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการกสทช.และรักษาการเลขาธิการกสทช.นั้น

ผลปรากฎว่า อนุฯทั้ง 4 คณะลงมติ 3:1 ไม่เห็นด้วยกับการรวมธุรกิจดังกล่าว โดย 3 อนุกรรมการที่คัดค้านประกอบด้วย อนุกรรมการด้านคุ้มครองผู้บริโภคและสิทธิพลเมือง อนุกรรมการด้านเศรษฐศาสตร์ และอนุกรรมการด้านเทคโนโลยี ส่วนอนุกรรมการ 1 เสียงที่เห็นด้วยกับการรวมธุรกิจคือ อนุกรรมการด้านกฎหมาย ทั้งนี้ อนุกรรมการที่คัดค้านเพราะระบุว่า ดีลนี้จะกระทบต่อตลาดโดยรวมทั้งเศรษฐกิจสังคม และทำให้ผู้บริโภคหมดทางเลือกต้องรับกรรมที่ต้องใช้ค่าบริการแพงขึ้น

ด้านบล.โนมูระ พัฒนสิน มองเป็นลบเล็กน้อยต่อข่าว อนุฯกสทช. ส่วนใหญ่ลงมติไม่เห็นด้วยกับดีลควบรวมทรู-ดีแทค ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลก่อนหน้าที่อนุฯมีเสียงก้ำกึ่ง (กรุงเทพธุรกิจ 14 ก.ค.65) โดยอ้างจะกระทบต่อตลาดโดยรวมทั้งเศรษฐกิจสังคม และทำให้ผู้บริโภคหมดทางเลือกต้องรับกรรมที่ต้องใช้ค่าบริการแพงขึ้น ทาให้ราคาหุ้น DTAC – TRUE ระยะสั้นอาจอ่อนตัวลงสะท้อนปัจจัยดังกล่าวอย่างไรก็ดี ตามหลักการตัดสินใจหลักยังคงอยู่ที่บอร์ดกสทช. (ไม่ใช่อนุกรรมการฯ) ซึ่งคาดจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้าหรืออย่างช้าวันที่ 11 ส.ค.65

โดยเบื้องต้นยังคงมีความเชื่อมั่นไม่ต่ำกว่า 80% ว่าดีลควบบริษัทจะยังเกิดขึ้นได้แบบมีเงื่อนไข (คล้ายดีลกลุ่มซีพีซื้อโลตัสส์) สอดคล้องมุมมองนักวิชาการส่วนใหญ่ที่คาดการควบรวมทำให้เกิดการปรับตัวของธุรกิจและเทคโนโลยีใหม่ให้มีศักยภาพการแข่งขันกับคู่แข่งข้ามชาติมากขึ้น โดยทางฝ่ายวิจัยยังคงมองบวกต่อการควบรวมกิจการระหว่าง TRUE กับ DTAC ที่จะทำให้เกิดความเสมอภาคทางทรัพยากรของผู้ประกอบการมือถือไทย การแข่งขันในระยะยาวจะสมเหตุสมผลมากขึ้น

อย่างไรก็ดีให้น้ำหนักการลงทุน “เท่ากับตลาด” โดยเน้นรอซื้ออ่อนตัวเป็นหลัก เลือก DTAC แนะนำราคาเป้าหมาย 55 บาท และ ADVANC แนะนำราคาเป้าหมาย 240 บาท เป็นหุ้นเด่น โดยชอบ (1) DTAC คาดจะได้ประโยชน์มากสุดจากดีลควบบริษัทครั้งนี้ ทำให้มีโอกาสซื้อขายบน EV/EBITDA ที่สูงขึ้นจากปัจจุบันที่ 5-6 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มและอยู่ระหว่างจ่ายปันผล 0.85 บ./หุ้น (yield 1.8%, ขึ้น XD 27 ก.ค.) คู่กับ (2) ADVANC เพราะจะได้ประโยชน์จากจำนวนคู่แข่งขันในระยะยาว อีกทั้งมีปัจจัยบวกอยู่ระหว่างเข้าซื้อ TTTBB กับ JASIF บางส่วนที่คาดสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำกว่า+3 บ./หุ้น แถมยังได้คาดเงินปันผลครึ่งแรกของปี 65 จะจ่าย 3.2-3.3 บ./หุ้น (yield 1.6%)

สำหรับปัจจัยเสี่ยงกลุ่มอยู่ที่ดีลควบรวม DTAC และ TRUE กรณีเลวร้ายที่สุดหากหน่วยงานรัฐไม่อนุมัติควบรวม ประเมินราคาเป้าหมาย (ก่อนรวมดีลควบกิจการ) สำหรับ DTAC อยู่ที่ 40 บาท ส่วน TRUE อยู่ที่ 3.90 บาท ตามด้วย ADVANC อยู่ที่ 215 บาท และ INTUCH อยู่ที่ 69 บาท ตามลำดับ