Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย

สรุปภาวะตลาดเช้า

– SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 2.15 จุด (0.15%) ปิดภาคเช้าที่ 1,400.53 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18,761.94 ลบ. 

– Most Positive Impact: ADVANC (+0.94 จุด) PTT (+0.90 จุด) U (+0.59 จุด)

– Most Negative Impact: AOT (-2.11 จุด) BDMS (-0.32 จุด) BBL (-0.30 จุด)

จุดสังเกต: วันนี้ PTT พลิกกลับมาบวกครั้งแรกในรอบ 3 วัน โดยบวกขึ้นมา 1% หลังจากปรับลงต่อเนื่อง 2 วันติดต่อกันกว่า 6% การดีดกลับของ PTT อาจเป็นตัวบอกว่ากระแสเงินลงทุนในประเทศอาจกำลังโยกเงินจาก หุ้นกลาง-เล็กที่เล่นเก็งงบกันในช่วงก่อนหน้าและย้อนกลับมาเก็บหุ้นใหญ่ที่ราคาปรับลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ซึ่งตามกระแสหมุนเงินกลับมาหุ้นใหญ่ในลักษณะนี้ อาจเป็นไปได้ว่ากลุ่มต่อไปที่จะเล่นกันคือกลุ่ม ธนาคารฯ 

 

แนวโน้มตลาดบ่าย 

“1,394 จุด ยังคงแข็งแกร่งแสนสะท้าน มองบ่ายอาจฟื้นตัวต่อ แต่ไม่น่าเกิน 1,410 จุด”  

– SET Index ยังคงถูกรับได้ที่แนวทดสอบสำคัญ 1,394 จุด ถือเป็นแนวรับที่ทำงานได้ดีมา 2 วันติดต่อกัน บ่งบอกว่าแรงขายกำลังชะลอตัว และตลาดยังเหลือแรงซื้อที่คอยประคองอยู่ ทั้งนี้การกลับมาของ PTT อาจเป็นจุดเริ่มของสัญญาณหมุนเงิน จากหุ้นกลาง-เล็ก ที่เก็งงบกันในช่วงก่อนหน้า สลับกลับมายังหุ้นใหญ่ ซึ่งเป็นไปได้สูงว่า กลุ่มต่อไปที่จะเล่นกันคือ ธนาคารฯ  

– ปัจจัยใหม่ๆที่จะหนุนตลาดยังไม่มีให้เห็นชัด ทำให้การไล่กลับของ SET Index ในวันนี้ยังดูมีความเสี่ยง และอาจจะต้งปรับลงมาอีกรอบ โดยบ่ายวันนี้ SET Index ยังไม่น่าจะแรงหนุนที่มากพอจะส่งให้ขึ้นผ่าน 1,410 จุดได้ 

– คณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ(PPP) เห็นชอบให้นาโครงการลงทุน 5 โครงการ รวมมูลค่า 3.34 แสนล้านบาท (คาดว่าจะประกอบไปด้วย ประกอบไปด้วย โครงการรถไฟฟ้าสีชมพู แคราย-มีนบุรี, โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง, โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน  บางซื้อ-ท่าพระ, โครงการโรงงานขยะ อบจ.นนทบุรี, โครงการโรงงานขยะเทศบาล นครราชสีมา) เข้าสู่โครงการ PPP Fast Track เฟสแรก ซึ่งคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ในเดือน มี.ค. หลังจากนั้นจะออก TOR เปิดซองกันในเดือน พ.ค.2559 

– ข่าวดังกล่าว ถือเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มรับเหมาฯโดยรวม เพราะแสดงให้ถึงการเร่งดำเนินการในการประมูลงานใหญ่ของภาครัฐ ทำให้โครงการอื่นๆใน Mega Project 19+1 โครงการ น่าจะได้เห็นการจัดการประมูลได้ภายในปี 2559 – 2560 

 

ประเด็นจับตา/ติดตาม: 

 (+/-) ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม : 13 พ.ย. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ต.ค. และการรายงานยอดค้าปลีกเดือน ต.ค. ของสหรัฐ

หุ้นแนะนำ : KCE และERW

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : EE มองเป้าหมายไว้ที่ 1.25 บาท ตัดขาดทุน 1.12 บาท

 

Investment Theme :  

1.หุ้น Value Plays ที่มี PE และ PBV ต่ำ BBL TCAP 

2.หุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุน CK (การลงทุนของรัฐบาล) AOT CENTEL (ฤดูกาลท่องเที่ยว) CPALL SAWAD MTLS BLA (เก็งผลประกอบการ) 

3.หุ้น Laggard Plays เลือก ERW BA 

4.หุ้น High Dividend และ High Upside ADVANC INTUCH BTS ASK