PJW บวก 5% โบรกแนะซื้อเป้า 4.70 บ. ครึ่งหลังฟื้นแกร่ง รุกผลิตภัณฑ์แพทย์ หนุนรายได้โตยาว
PJW บวก 5% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 4.70 บ. ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นแกร่ง พร้อมรุกผลิตภัณฑ์แพทย์ หนุนรายได้โตยาว 3-5 ปีข้างหน้า และเป็น Upside ต่อประมาณการและมูลพื้นฐานในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ส.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW ณ เวลา 15:24 น. อยู่ที่ระดับ 4.20 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 5.00% สูงสุดที่ระดับ 4.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.98 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 82.79 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร PJW เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 ผลการดำเนินงานจะกลับมาฟื้นตัวได้ดีจากช่วงครึ่งปีแรก หลังจากเศรษฐกิจโดยรวมกลับสู่ภาวะปกติ และโควิด-19 คลี่คลายลง ซึ่งจะทำให้บรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาหาร (นมเปรี้ยว) ชิ้นส่วนยานยนต์ และบรรจุภัณฑ์น้ำมันเครื่อง กลับมาขยายตัวอย่างโดดเด่น ทั้งปี 2565 ยังคงเป้าหมายมีรายได้รวมเติบโต เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวม 3,086.80 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/2565 มีรายได้รวมแล้ว 916.52 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน บริษัทมั่นใจว่าในปี 2566 ผลการดำเนินงานจะเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากทุกธุรกิจจะกลับมาดำเนินงานภายใต้ภาวะปกติ ทั้งธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาหาร, น้ำมันเครื่องและชิ้นส่วนยานยนต์ รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เบื้องต้นปีแรกตั้งเป้าหมายมีรายได้ 100 ล้านบาท ซึ่งจะมีการประชุมทีมงาน และวางกลยุทธ์ร่วมกับพันธมิตรในสัปดาห์หน้านี้ ส่วนผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ มองว่าจะช่วยสนับสนุนการเติบโตได้ดีเช่นกัน
สำหรับผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ แบ่งเป็น 1. การนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ไซริงค์จากประเทศจีน ภายใต้บริษัท พีเจ เมดิคอล จำกัด (PJM) โดยที่ผ่านมามีการล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากการล็อกดาวน์เมืองในประเทศจีน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องโลจิสติกส์ และน่าจะสามารถนำเข้ามาได้ในอนาคตอันใกล้นี้ จึงได้ปรับลดเป้ารายได้จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในปี 2565 เหลือ 150 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 300 ล้านบาท และ
2.ล่าสุดได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อศึกษาและหาโอกาสทางธุรกิจในธุรกิจวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ฯ กับทางบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด (INNOBIC) และบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC นั้น เบื้องต้นจะเริ่มเห็นโปรดักส์ของการร่วมมือออกสู่ตลาดตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป ซึ่งจะช่วยสร้างยอดขายเข้ามาเสริมในปี 2566 อย่างไรก็ตาม คาดในช่วง 1-2 เดือนนับจากนี้จะเห็นแผนงานชัดเจนมากขึ้น และได้วางเป้าหมายรายได้ปีแรกไว้อย่างน้อย 300 ล้านบาท
ด้านบริษัท มาสเตอร์ ลอนดรี้ ดำเนินธุรกิจซัก-อบ-รีด ปัจจุบันยังคงรักษาระดับรายได้ไว้ที่ 100 ล้านบาท เนื่องจากเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของลูกค้ากลุ่มโรงแรม และโรงพยาบาล หลังเศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19 คลี่คลาย และการเปิดประเทศรับนักท่อง เบื้องต้นภายในสิ้นปี 2565 มองว่าจะสามารถสร้างรายได้ 150 ล้านบาท และในปี 2566 จะมีรายได้ 200 ล้านบาท เทียบเท่าก่อนเกิดโควิด-19
ขณะที่ธุรกิจโรงพ่นสี แม้ว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีแรกจะชะลอตัวลงจากปัจจัยลบหลาย ๆ ด้าน แต่ยังคงเดินเครื่องจักรเฉลี่ยได้ 30-40% เนื่องจากมีคำสั่งผลิตในมือ (Backlog) พอสมควร รวมทั้งมองว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ธุรกิจน่าจะมีการฟื้นตัวดีขึ้น และยังได้โมเดลใหม่จากลูกค้าเข้ามาเสริมพอร์ตในปี 2566 คาดว่าจะช่วยให้อัตราการเดินเครื่องจักรขยับไปแตะ 50-60% และช่วยหนุนภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปีอีกด้วย
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi แนะนำ “ซื้อ” PJW โดยให้ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท จากมุมมองเชิงบวกต่อโอกาสเติบโตจากธุรกิจใหม่ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทใน 3-5 ปีข้างหน้า และเป็น Upside ต่อประมาณการและมูลพื้นฐานในอนาคต ซึ่งสะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกต่อกำไรจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ และชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า กอรปกับธุรกิจใหม่ที่จะหนุนการเติบโตในระยะยาว
โดยมีมุมมองบวกต่อกรณีการร่วมลงนาม MOU ระหว่าง PJW กับ IRPC และ INNOBIC เพื่อร่วมศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา 1 ผลิตภัณฑ์ โดยทาง PJW จะเป็นผู้ผลิต ขณะที่ IRPC เป็นผู้จัดหาวัตถุดิบและออกแบบผลิตภัณฑ์ และ INNOIC เป็นผู้ทำการตลาด โดยเรามองว่าเป็นปัจจัยเร่งการเติบโตของธุรกิจใหม่ในปี 2566 เนื่องจากตลาดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ประเภทวัสดุสิ้นเปลืองมีศักยภาพสูง และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าธุรกิจปัจจุบันราว 3-5 % โดยผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายจากธุรกิจนี้ที่ราว 1.5 พันล้านบาทต่อปี ภายใน 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ทาง PJW ได้คาดว่าภายในปี 2566 จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา 2 ผลิตภัณฑ์คือ Oxygen Humidifier Bottle (กระบอกทำความชื้นออกซิเจน) และ Hemo-Flow Dialyzer (ไส้กรองล้างไต) ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา โดยเรามองว่าผลิตภัณฑ์กระบอกทำความชื้น ออกซิเจน จะช่วยหนุนรายได้บริษัทให้เติบโตในปีหน้า โดยคาดว่ารายได้จากผลิตภัณฑ์นี้จะเข้ามาในปี 2566 ราว 400 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 10% ของประมาณการรายได้เดิมของปี 2565 ขณะที่ผลิตภัณฑ์ ไส้กรองล้างไตยังมีความท้าทาย เนื่องจากต้องการคุณภาพในการผลิตที่สูง เนื่องจากอยู่ในช่วงของกระบวนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทดสอบ และทำการตลาด
ด้านนายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร PJW กล่าวตอกย้ำถึงความร่วมมือ ระหว่าง บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด หรือ INNOBIC ว่า ด้วยนโยบายพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ในอนาคต
โดยจะเป็นส่วนผลักดันให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองเพิ่มมากขึ้น โดยความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการนำจุดแข็งและความเชี่ยวชาญของทุกบริษัทมาต่อยอดธุรกิจ โดย IRPC มีศักยภาพความแข็งแกร่งในฐานะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และเม็ดพลาสติกชั้นนำในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ INNOBIC มุ่งเน้นดำเนินการลงทุนในธุรกิจยา ธุรกิจวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ และธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ ดังนั้นมองว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ สู่ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง ที่มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูงสุด
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองที่ได้จากการวิจัยและพัฒนาร่วมกัน กับพันธมิตรทั้ง 3 บริษัท คาดว่าสินค้าบางตัวจะแล้วเสร็จภายในช่วงปลายปี 2565 โดยจะเริ่มจากการสั่งผลิต (OEM) สินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายก่อน และหลังจากนั้นจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) เพื่อก่อสร้างโรงงานและลงทุนเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งหลังของปี 2566