BBIK บวก 6 วันพุ่ง 21% เก็งงบ Q2 โต 75% ลุ้นงานตปท.ดันแบ็กล็อกเพิ่ม
BBIK บวกยาว 6 วันทะยาน 21% เก็งกำไรไตรมาส 2 โต 75% แตะ 31 ลบ. จับตางานพัฒนาแอปด้าน “สุขภาพ” ที่อังกฤษ ดันแบ็กล็อกปีนี้เพิ่ม และเพิ่มโอกาสรับงานต่างประเทศในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ส.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK ณ เวลา 10:41 น. อยู่ที่ระดับ 79.25 บาท บวก 2 บาท หรือ 2.59% สูงสุดที่ระดับ 82.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 77.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105.32 ล้านบาท
ทั้งนี้ราคาหุ้น BBIK ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 6 วันติดนับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 65.50 บาท เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 65 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.75 บาท หรือคิดเป็น 20.99%
บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (5 ส.ค.65) ว่า BBIK ได้งานใหม่พัฒนาแอปพลิเคชันด้านสุขภาพที่อังกฤษ โดยนายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIK ได้แจ้งเซ็นสัญญารับงานใหม่ที่ประเทศอังกฤษเมื่อเดือน ก.ค.65 เกี่ยวกับงานพัฒนาซอฟต์แวร์ให้กับบริษัทพัฒนาแอปพลิเคชันด้านสุขภาพรายใหญ่ในประเทศอังกฤษ โดยงานดังกล่าวจะได้รับประโยชน์โดยตรงจากแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งตัว และเป็นปัจจัยสนับสนุนด้านรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ช่วยดันสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศให้โตตามเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 15-20% ในปีนี้ รวมถึงอยู่ระหว่างศึกษาตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างจริงจัง เพื่อหวังชิงส่วนแบ่งตลาดดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในยุโรปและ สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับไทยและอาเซียน
ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นบวก ช่วยสร้าง track record เพิ่มโอกาสรับงานต่างประเทศในอนาคต โดยงานใหม่ดังกล่าวเป็นงานแรกที่ BBIK ได้ขยายเข้าสู่ตลาดยุโรป จากเดิมที่มีงานในต่างประเทศส่วนใหญ่จะอยู่ในอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ซึ่งการได้รับงานใหม่เพิ่มในต่างประเทศจะช่วยสร้าง track record เพิ่มโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มเติมได้ในอนาคตไม่ได้จำกัดรายได้เฉพาะในประเทศ
สำหรับงานใหม่ดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม backlog และรับรู้รายได้ในปี 65 ให้มากขึ้น โดย ณ 31 มี.ค.65 มี backlog ที่ 458 ล้านบาท และการรับงานใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจะช่วยให้ backlog มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่ในครึ่งปีหลัง 65 ได้อีก ยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 88 บาท
ทั้งนี้ BBIK จัดเป็นหุ้นที่มีกำไรเติบโตโดดเด่น โดยทางฝ่ายวิจัยประเมินกำไรจะเติบโตเฉลี่ย 51% CAGR ในช่วง 65-67 โดยปี 65 ทางฝ่ายวิจัยประมาณการกำไรที่ 113 ล้านบาท เติบโต 70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และปี 66 จะมีกำไรที่ 169 ล้านบาท เติบโต 50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีโอกาส upside เพิ่มได้อีกหากการขยายตลาดในต่างประเทศเติบโตมากกว่าคาด รวมถึงการทำดีลใหม่ๆ (JV และ M&A)
ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า BBIK มีมุมมองบวกต่อแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ที่คาดเป็นจุดสูงสุดใหม่ที่ 31 ล้านบาท เติบโต 75% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต 10% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ดีต่อเนื่องตามการการรับรู้รายได้จาก backlog จำนวนมาก
โดยยังคงมองบวกต่อแนวโน้มธุรกิจซึ่งผ่านเข้าสู่ยุคดิจิตอลที่กำลังเป็น megatrend และภาพการเติบโตที่ชัดมากของบริษัท จึงมีการปรับประมาณการกำไรปี 65-67 ขึ้นเฉลี่ย 14% และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายที่ 106 บาท (จากเดิมที่ 94 บาท) โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” จากโมเมนตัมกำไรเติบโตสูงมาก เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องทุกไตรมาส