“หุ้นโรงไฟฟ้า” ร่วง! เหตุกระแสข่าว “กกพ.” ไร้ข้อสรุปค่า Ft
“หุ้นโรงไฟฟ้า” ปรับตัวลดลงวันนี้ หลัง “กกพ.” มีการเลื่อนแถลงข่าว “การชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร” ไม่มีกำหนด แม้ก่อนหน้านี้มีมติการปรับขึ้นค่าเอฟทีไปแล้วตั้งแต่เมื่อ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ส.ค.65) ณ เวลา 11:41 น. ราคาหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจะได้รับอานิสงส์จากการขึ้นค่าเอฟทีต่างปรับตัวลดลง นำโดย บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM อยู่ที่ระดับ 39 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 1.27% สูงสุดที่ระดับ 40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 455.55 ล้านบาท
ส่วนราคาหุ้นบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 70 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 0.71% สูงสุดที่ระดับ 71 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 69.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 369.79 ล้านบาท
ขณะเดียวกันราคาหุ้นบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 184 บาท ลบ 2 บาท หรือ 1.08% สูงสุดที่ระดับ 186.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 183.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 101.71 ล้านบาท
รวมถึงราคาหุ้นบริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 38.25 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 0.65% สูงสุดที่ระดับ 39 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 114.24 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าปรับตัวลดลง จากความกังวลหลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. มีการเลื่อนแถลงข่าว “การชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) รอบเดือนกันยายน – ธันวาคม 2565” ในวันนี้ (5 สิงหาคม 2565) ไปอย่างไม่มีกำหนด อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่สังคม ประชาชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการในธุรกิจต่างๆ ยังรอคำตอบ เพราะเรื่องค่าไฟมีผลต่อการใช้ชีวิต และจะทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ แม้ว่าทาง กกพ. จะมีการเลื่อนการแถลงข่าวออกไป แต่เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประชุม กกพ. มีมติขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (กันยายน-ธันวาคม 2565) เป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 68.66 สตางค์ต่อหน่วย จากปัจจุบัน (พฤษภาคม-สิงหาคม 2565) ค่าเอฟทีอยู่ที่ 24.77 สตางค์ต่อหน่วย
อย่างไรก็ตาม “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งข่าวของ กกพ. ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไป