JWD มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% เล็งตั้งกอง REIT ราว 2 พันลบ. ในปี 59

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่ 2.2 พันล้านบาท และกำไรยังจะมากกว่าปีก่อนที่ 124 ล้านบาท แม้ว่าภาวะเศราฐกิจและการเช่าของลูกค้าในพื้นที่เช่าใหม่ๆยังคงชะลอตัว แต่ยังมีรายได้จากลูกค้าเก่าที่ยังคงใช้บริการกับบริษัทคอยหนุนการเติบโตของผลการดำเนินงานในปีนี้อยู่

ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 59 เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้ ซึ่งมาจากรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น หลังจากการขยายพื้นที่เช่าคลังเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศโดยจะมีคลังสินค้าในประเทศลาว กัมพูชา และพม่า ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในไตรมาส 2/59

ประกอบคลังสินค้าประเภทห้องเย็นในประเทศที่เปิดให้บริการแล้วที่มหาชัย พื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ปัจจุบันมีอัตราการเช่า 80% คลังสินค้าประเภทห้องเย็นที่สุนวินทวงศ์ พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร และคลังสินค้าประเภทห้องเย็นที่บางนา กม.9 พื้นที่ 10,000 ตารางเมตร โดยมีอัตราการเช่า 45% ทั้งคู่ ซึ่งจะสามารถรับรู้รายได้ค่าเช่าได้เต็มปีในปีหน้า หลังจากที่ปีนี้รับรู้รายได้ค่าเช่าไตรมาส 4/58 ไตรมาสเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ในปี 59 บริษัทวางแผนจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) มูลค่าราว 2 พันล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาและเลือกประเภทสินทรัพย์ที่จะนำมาขายเข้ากอง โดยเบื้องบริษัทจะนำคลังสินค้าที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัท (Free Hold) และอาจจะเป็นการนำคลังสินค้าประเภทห้องเย็นให้เช่าเข้าขายในกอง REIT อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปการศึกษาจัดตั้งกอง REIT ในสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าจะมีข้อสรุปการพัฒนาคลังสินค้าบนที่ดินบางนา กม.9 จำนวน 33 ไร่ ในไตรมาส 1/59 ซึ่งวางแผนจะพัฒนาเป็นคลังสินค้าให้เช่าพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร อย่างไรก็ตามบริษัทขอดูสถานการณ์ต่างๆทั้งภาวะเศรษฐกิจในและต่างประเทศ พร้อมกับดูความต้องการคลังสินค้าของลูกค้าจะมีมากไหม ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีซัพพลายด์มากกว่าดีมานด์ หากในปีหน้าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบปีนี้ การพํฒนาคลังสินค้าดังกล่าวอาจจะชะลอไปก่อน และจะกลับมาพัฒนาอีกครั้งเมื่อเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี

สำหรับเป้าหมายการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศในปี 63 นั้นตั้งเป้าเพิ่มเป็น 25% จากปีนี้ที่ 8-10% และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 13-15% ซึ่งมาจากการขยายคลังสินค้าให้เช่าในประเทศกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นหลัก อีกทั้งยังตั้งเป้ามีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าทั้งในและต่างประเทศในปี 63 เพิ่มเป็น 1 ล้านตารางเมตร จากสิ้นปีนี้ที่มีพื้นที่รวม 775,000 ตารางเมตร