BCH ร่วง 2% โบรกชี้กำไร Q3 หดตัว เหตุรายได้โควิดลด – ตั้งสำรองขาดทุนวัคซีน

BCH ร่วง 2% โบรกคาดกำไรไตรมาส 3/65 ลดลง เหตุรายได้จากการบริการโควิดลด รวมถึงโรงพยาบาลตั้งสำรองผลขาดทุนจากที่สั่งซื้อวัคซีนโควิดเข้ามามากแล้วยังขายออกไปไม่หมดหรืออาจต้องขายในราคาต่ำกว่าทุน โบรกแนะ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 20.40 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.65) ราคาหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ณ เวลา 10:32 น. อยู่ที่ระดับ 19.40 บาท ลบ 0.40 บาท หรือ 2.53% สูงสุดที่ระดับ 19.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 19.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 286.26 ล้านบาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาด BCH มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 ลดลงทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้าจากฐานที่สูงในปีก่อน และรายได้จากบริการที่เกี่ยวข้องกับโควิดลดลง เพราะรัฐบาลลดงบประมาณสนับสนุน รวมถึงการเจ็บป่วยโควิดไม่ได้มีอาการรุนแรงมาก

นอกจากนั้นความเสี่ยงหลัก คือ โรงพยาบาลอาจจะต้องตั้งสำรองผลขาดทุนจากที่สั่งซื้อวัคซีนโควิดเข้ามามากแล้วยังขายออกไปไม่หมด หรืออาจต้องขายในราคาต่ำกว่าทุน ซึ่งทางโรงพยาบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ยังไม่ได้สะท้อนไว้ในประมาณการจึงเป็น Downside risk ต่อประมาณการและคำแนะนำการลงทุน

ทั้งนี้กำไรสุทธิไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 1.14 พันล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 44% จากไตรมาสก่อนหน้าต่ำกว่ากว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดและตลาดคาดไว้ 8-11% โดยมาจาก GPM น้อยกว่าคาด และค่าใช้จ่ายขายและบริหารสูงกว่าคาด

ส่วนรายได้ไตรมาส 2/65  เติบโตเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน ส่วน GPM อ่อนลงจากไตรมาส 2/65 ทั้งนี้รายได้ไตรมาส 2/65 เติบโต 28% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน จากรายได้คนไข้เงินสดและประกันสังคมเพิ่มขึ้น แต่ลดลง 22% จากไตรมาสก่อนหน้า มาจากรายได้เกี่ยวกับโควิดน้อยลง ส่วน GPM ไตรมาส 2/65 ลดลงเป็น 37% จากในไตรมาส 1/65 ที่ 45.1% และไตรมาส 2/65 ที่ 46.3% ซึ่งในช่วงนั้นรายได้โควิดเป็นสัดส่วนสูง ด้านค่าใช้จ่ายดำเนินงานก็เพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มทั้งปี 65 ผู้บริหารยังยืนยันเป้ารายได้ 17 พันล้านบาท ลดลง 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้ครึ่งปีหลังปี 65 ที่เติบโตจะเป็นรายได้ที่ไม่ใช่โควิด และรายได้จากคนไข้ต่างชาติที่เริ่มกลับเข้ามา โดยเฉพาะคนไข้จากตะวันออกกลาง

โดยทางฝ่ายวิจัยแนะนำ “ถือ” ให้ราคาพื้นฐาน 20.40 บาท โดยการเติบโตในปี 66 คือ รายได้จากคนไข้ประกันสังคม จากคนไข้จดทะเบียนเข้าประกันสังคมกับโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น และรายได้ต่อคนไข้สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดกำไรสุทธิปี 65 อยู่ที่ 4.28 พันล้านบาท ลดลง 37% และในปี 66 อยู่ที่ 1.48 พันล้านบาท ลดลง 65%

Back to top button